ถึงเวลาโละกองหน้า “ตราหมี”
ทีม “ตราหมี” แอตเลติโก มาดริด ทีมระดับชั้นนำของศึกลา ลีก้าสเปน เป็นทีมที่ขึ้นชื่อว่ามีเกมรับที่แข็งแกร่งและเหนียวแน่นนับตั้งแต่ที่มีดิเอโก้ ซิเมโอเน่ กุนซือชาวอาร์เจนไตน์เข้ามาคุมทีมเมื่อเดือนธันวาคม 2011 จนถึงขั้นทำให้แอตเลติโก มาดริด ประสบความสำเร็จคว้าแชมป์ลา ลีก้ามาครองด้วยเกมรับอันแข็งแกร่งของพวกเขาอีกด้วย แต่ด้วยสไตลย์ที่เน้นการเหนียวแน่นในแผงหลัง และเล่นอย่างรัดกุม ทำให้พวกเขาเป็นทีมระดับหัวตารางที่ทำประตูได้น้อยมากในแต่ละฤดูกาล
ซึ่งการทำประตูของพวกเขานั้นต้องเน้นกองหน้าที่ต้องมีประสิทธิภาพเป็นอย่างมาก เพราะการจัดระบบในแดนกลางของกุนซือชาวอาร์เจนไตน์นั้นไม่ค่อยเหมือนใคร และจะเน้นนักเตะเชิงรับให้ลงสนามในแดนกลางอย่างน้อย 3 คนเสมอ ซึ่งเขาเป็นกุนซือเพียงไม่กี่คนในโลกใบนี้ที่มักจะจับมิดฟิลด์ตัวกลางมาเล่นตรงริมเส้น อย่างโกเก้ หรือซาอูล นิเกซเป็นต้น
และถึงม้ว่าจะใช้งานปีกมายืนเป็นตัวริมเส้นเหมือนอย่างทีมอื่นๆ ก็จริง แต่ปีกคนนั้นก็ต้องเล่นเกมรับได้อย่างดี ไม่ขาดตกบกพร่องด้วย ซึ่งนั่นทำให้ประสิทธิภาพในการทำเกมรุกนั้นลดลงไปด้วย ซึ่งทำให้แอตเลติโก มาดริดในยุคของซิเมโอเน่นั้นมีปัญหาในการทำประตูมาโดยตลอด เพราะกองหน้าของพวกเขานั้นต้องจัดจ้าน และครบเครื่องนั่นเอง ถึงจะเล่นในรูปแบบการเล่นแบบนี้ได้ประสบความสำเร็จ
ในช่วงก่อนหน้านี้นั้นแอตเลติโก มาดริดนั้นมีอ็องตวน กรีซมันน์ กองหน้าทีมชาติฝรั่งเศสเป็นตัวยืนในแดนหน้ามาโดยตลอด และคู่กองหน้าของเขาก็จะสลับกันไปในแต่ละฤดูกาล แต่คนที่เล่นเข้ากับกรีซมันน์ได้ดีที่สุดก็จะเป็นดิเอโก้ คอสต้า กองหน้าร่างใหญ่ชาวสเปนนั่นเอง ที่มีทักษะกันคนละอย่าง ทำให้เติมเต็มซึ่งกันและกันได้ แต่ในช่วงก่อนเริ่มฤดูกาลนี้พวกเขาต้องเสียอ็องตวน กรีซมันน์ไปให้กับบาร์เซโลน่าที่มาทุ่มเงิน 120 ล้านยูโรฉีกสัญญาคว้าตัวไปร่วมทีม
ทำให้พวกเขาขาดตัวสร้างสรรค์โอกาส และตัวจบสกอร์ชั้นดีไปในฤดูกาลนี้ แม้ว่าทีมจะนำเงินก้อนนั้นไปดึงตัวชูเอา เฟลิกซ์ ตัวรุกดาวรุ่งอนาคตไกลชาวโปรตุกีสมาจากเบนฟิก้าในราคาเดียวกับที่เสียกรีซมันน์ไปก็ตาม แต่ในฤดูกาลนี้ดาวเตะวัย 19 ปียังไม่สามารถปรับตัวกับการเล่นในลีกระดับสูงอย่างลา ลีก้าสเปนได้ดีนัก ทำให้ผลงานของเขาไม่โดดเด่นเหมือนอย่างตอนช่วงพรีซีซั่น ที่เขาเล่นได้อย่างโดดเด่น แต่พอเริ่มฤดูกาลจริงนั้นเฟลิกซ์ ยังเป็นที่พึ่งของแดนหน้าแอตเลติโก มาดริดยังไม่ได้ในฤดูกาลนี้
และยังทำได้ไม่ถึง 10 ประตูด้วยซ้ำในทุกรายการที่ลงสนามฤดูกาลนี้ ทำให้การหาตัวแทนของกรีซมันน์ในฤดูกาลแรกนั้นถือว่าล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง แต่ด้วยอายุที่ยังน้อยของชูเอา เฟลิกซ์ ทำให้เขายังมีโอกาสกับทีมต่อไปในฤดูกาลหน้าอย่างแน่นอน แต่กองหน้าอีก 2 คนอย่างอัลบาโร่ โมราต้า และดิเอโก้ คอสต้า 2 อดีต 2 กองหน้าของเชลซีและทีมชาติสเปนก็ดันมานัดกันฟอร์มตกเช่นกันในฤดูกาลนี้
ทำให้การทำประตูของทีมย่ำแย่เป็นอย่างมาก โดยผ่านไป 27 นัดในลา ลีก้าสเปน แอตเลติโก มาดริดพึ่งจะทำไปได้แค่เพียง 31 ประตูเท่านั้น ซึ่งถือว่าน้อยมากๆ เมื่อเทียบกับทีมหัวตารางทีมอื่นๆ และหากนับ 10 อันดับแรกของตาราง พวกเขาทำประตูได้มากกว่าแอธเลติก บิลเบาเพียงทีมเดียวเท่านั้น ที่ทำไปได้แค่เพียง 29 ประตูเท่านั้น ซึ่งนี่เป็นเหตุผลหลักที่ทำให้เเอตเลติโก มาดริดต้องหล่นมาอยู่อันดับที่ 6 ของตารางก่อนที่จะมีการหยุดการแข่งขันหนีโรคระบาดไป
คงจะต้องถึงเวลาแล้วที่แอตเลติโก มาดริดจะต้องทำการเปลี่ยนแปลงกองหน้าครั้งใหญ่ของทีม เพราะช่วงที่ผ่านมามันแสดงให้เห็นแล้วว่าดิเอโก้ คอสต้าที่เคยเป็นตัวความหวังของทีมนั้นก็เริ่มมีสภาพร่างกายที่ไม่สู้ดีนัก และบาดเจ็บมาอย่างต่อเนื่องเลยทีเดียว หลังจากที่ย้ายจากเชลซีกลับมาอยู่กับทีมอีกครั้ง ส่วนอัลบาโร่ โมราต้า ที่ถึงแม้ว่าฤดูกาลนี้เขาจะเป็นกองหน้าของทีมที่ทำผลงานได้ดีที่สุด โดยทำไปได้ 12 ประตูในทุกรายการ
แต่ก็ไม่ได้ดีเท่าที่ควร เมื่อเทียบกับกองหน้าของทีมอื่นๆ ซึ่งเหมือนกับว่ากองหน้า 2 คนที่คาดว่าจะเป็นตัวหลักของแอตเลติโก มาดริดในฤดูกาลนี้ เหมือนว่าจะอยู่ในช่วงขาลงด้วยกันทั้งคู่แล้ว โดยดิเอโก้ คอสต้านั้นก็อยู่ในวัย 31 ปีแล้ว ซึ่งก็เป็นช่วงอายุนักเตะที่อยู่ในช่วงขาลงแล้ว โดยฤดูกาลนี้ฟอร์มของเขานั้นน่าเกลียดมากเมื่อทำไปได้เพียงแค่ 2 ประตูเท่านั้นในทุกรายการ จากการลงสนามไป 19 นัด ซึ่งเป็นฟอร์มที่ตกลงอย่างน่าใจหาย ส่วนโมราต้านั้นแม้ว่าจะอยู่ในวัย 27 ปีซึ่งน่าจะเป็นช่วงพีคของเขา แต่ฟอร์มการเล่นนั้นกลับเริ่มแย่ลงเรื่อยๆ นับตั้งแต่ย้ายออกจากเรอัล มาดริดมายังเชลซี และยังไม่ดีขึ้นตอนอยู่กับแอตเลติโก มาดริด