โอกาสย้ายทีมของเคน!

โอกาสย้ายทีมของเคน!

แฮร์รี่ เคน กองหน้ากัปตันทีมชาติอังกฤษ และของท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ที่พึ่งออกมาเปิดทางว่าอาจจะย้ายออกจากทีม “ไก่เดือยทอง” หลังจากจบฤดูกาลนี้ เพราะยังมองไม่เห็นโอกาสที่จะประสบความสำเร็จ กับทีมดังในกรุงลอนดอนเลยในตอนนี้ แม้ว่าตอนนี้กุนซือของพวกเขาจะคือโชเซ่ มูรินโญ่ ยอดกุนซือชาวโปรตุกีสที่ย้ายไปคุมทีมไหนก็สามารถเนรมิตแชมป์มาสู่สโมสรได้โดยตลอด แต่ที่แน่ๆ ฤดูกาลนี้ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ จะต้องจบฤดูกาลด้วยการมือเปล่าแล้วแน่ๆ เพราะพวกเขาตกรอบยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกไปเรียบร้อยแล้ว ด้วยการพ่ายอย่างหมดรูปให้กับไลป์ซิกในรอบ 16 ทีมสุดท้าย

และในศึกเอฟเอ คัพพวกเขาก็แพ้จุดโทษคาบ้าน ให้กับนอริช ซิตี้ ทีมบ๊วยของตารางพรีเมียร์ลีกในรอบ 5 อีกด้วย ทำให้แฮร์รี่ เคน เกิดความไม่มั่นใจกับสโมสรแห่งนี้ทันที ทำให้เขาออกมาให้สัมภาษณ์เป็นการเปิดทางว่าเขามีความคิดที่จะย้ายออกจากทีมท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ สเตเดี้ยมหลังจบฤดูกาลนี้ ซึ่งอันที่จริงกองหน้าระดับเขาที่น่าจะเป็นกองหน้าอันดับต้นๆ ของวงการฟุตบอลยุคนี้นั้นจะมีทีมยักษ์ใหญ่ให้ความสนใจที่จะดึงตัวไปร่วมทีมอย่างแน่นอน แต่ด้วยค่าตัวที่ดาเนี่ยล เลวี่ ประธานสโมสรจอมเขี้ยวของพวกเขาตั้งเป้าไว้ที่ประมาณ 200 ล้านปอนด์

ทำให้มีความเป็นไปได้ยากมากที่จะมีใครมาซื้อตัวไปร่วมทีม และด้วยสภาวะในช่วงโรคโควิด 19 ระบาดอยู่เช่นนี้ และทำให้ฟุตบอลนั้นหยุดแข่งขันไป เช่นเดียวกับกิจการของสโมสรต่างๆ ที่ก็ได้รับผลกระทบกันถ้วนหน้า ทำให้การจะซื้อนักเตะรายไหนก็ตามในระดับที่เกิน 100 ล้านปอนด์หลังจบฤดูกาลนี้นั้นล้วนเป็นเรื่องที่แทบจะเป็นไปไม่ได้แล้วในตอนนี้ เพราะเหล่าสโมสรต่างๆ แม้กระทั่งทีมยักษ์ใหญ่ของยุโรปนั้นล้วนเจอกับปัญหาทางด้านการเงินทั้งสิ้น และยิ่งเป็นทีมใหญ่ยิ่งเจ็บหนักด้วยซ้ำ เพราะพวกเขาต้องแบกภาระจ่ายค่าเหนื่อยให้กับนักเตะตามเดิม แต่ว่าไม่มีรายรับเข้าสู่สโมสรเลยในตอนนี้ ทำให้หลายๆ ทีมพยายามเจรจาให้นักเตะยอมลดค่าเหนื่อยตามความเหมาะสมของฐานะของแต่ละสโมสร

 

แฮร์รี่ เคน กองหน้ากัปตันทีมชาติอังกฤษ และของท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ที่พึ่งออกมาเปิดทางว่าอาจจะย้ายออกจากทีม “ไก่เดือยทอง” หลังจากจบฤดูกาลนี้
แฮร์รี่ เคน กองหน้ากัปตันทีมชาติอังกฤษ และของท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ที่พึ่งออกมาเปิดทางว่าอาจจะย้ายออกจากทีม “ไก่เดือยทอง” หลังจากจบฤดูกาลนี้

 

ด้วยค่าตัวที่ถูกตั้งไว้คร่าวๆ ประมาณ 200 ล้านปอนด์ ทำให้ทีมที่มีโอกาสจะคว้าตัวแฮร์รี่ เคนไปร่วมทีมนั้นถูกบีบให้เหลือประมาณไม่เกิน 5 ทีมเท่านั้น ซึ่งประกอบไปด้วยเรอัล มาดริด บาร์เซโลน่า 2 ยอดทีมจากแดนกระทิงดุ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และแมนเชสเตอร์ ซิตี้ 2 ทีมดังของพรีเมียร์ลีก และปารีส แซงต์ แชร์กแมง ทีมเศรษฐีของฝรั่งเศส ซึ่งในสภาวะปกติก็ว่าเป็นเรื่องยากแล้วที่จะมีใครกล้าควักกระเป๋าหนักระดับ 200 ล้านปอนด์ แถมตอนนี้เป็นสถานการณ์ที่ไม่ปกติอีก ทำให้เป็นไปได้ยากมากที่จะมีการซื้อขายเกิดขึ้นหลังจบฤดูกาลนี้

และหากมาวิเคราะห์กับสถานะทางการเงินของแต่ละทีมแล้วก็จะดูมีความเป็นไปได้ยากขึ้นที่แฮร์รี่ เคนจะได้ย้ายทีม โดยเริ่มจากเรอัล มาดริด ที่พวกเขาต้องการกองหน้ามาร่วมทีมก็จริง แต่พวกเขามีเป้าหมายในการคว้าตัวคิลิยัน เอ็มบัปเป้ กองหน้าดาวรุ่งทีมชาติฝรั่งเศสมากกว่า หรือเป้าหมายรองของพวกเขาก็คือเออร์ลิ่ง เบราต์ ฮาแลนด์ ซึ่งราคาน่าจะถูกกว่าอย่างแน่นอน ส่วนบาร์เซโลน่านั้นก็ประสบปัญหาการเงินจนนักเตะต้องออกมาประกาศยอมลดค่าจ้างลงถึง 70 เปอร์เซ็นต์ แถมยังมีเรื่องปัญหาฝ่ายบริหารที่ค้างคาอยู่อตอนนี้ด้วย

ทางด้านแมนเชสเตอร์ ซิตี้นั้นแทบจะเป็นไปไม่ได้ เพราะพวกเขายังถูกคาดโทษจากกฏไฟแนนเชี่ยล แฟร์ เพลย์ที่พึ่งจะโดนลงโทษไปหมาดๆ และยังอยู่ในขั้นตอนของการอุทธรณ์โทษอยู่เลย ทำให้เป็นไปไม่ได้ที่จะซื้อใครในราคา 200 ล้านปอนด์ ส่วนทางด้านแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดนั้นมีเป้าหมายชัดเจนในตลาดรอบหน้าคือการคว้าตัวเจดอน ซานโช่ ปีกดาวรุ่งทีมชาติอังกฤษของโบรุสเซีย ดอร์ตมุนด์เป็นอันดับแรก ซึ่งดีลนั้นพวกเขาก็ต้องใช้เงินไม่ต่ำกว่า 100 ล้านปอนด์แน่ๆ ทำให้แทบเป็นไปไม่ได้ที่จะทุ่มซื้อแฮร์รี่ เคนอีกคนในตลาดรอบเดียวกัน และสุดท้ายปารีส แซงต์ แชร์กแมง ซึ่งพวกเขามีเจ้าของเป็นมหาเศรษฐีก็จริง แต่ในระยะหลังที่ผ่านมาก็เพลาการใช้เงินไปพอสมควรแล้ว เว้นเสียแต่ว่าพวกเขาจะขายคิลิยัน เอ็มบัปเป้ออกจากทีมไป

จากที่ดูสถานะของ 5 ทีมที่พอจะมีโอกาสคว้าตัวแฮร์รี่ เคนไปร่วมทีมได้นั้น จะเห็นได้ว่าแทบไม่มีทีมไหนเลยที่จะพร้อมทุ่มเงิน 200 ล้านปอนด์ดึงตัวหอกวัย 26 ปีไปร่วมทีมหลังจบฤดูกาลนี้ ทำให้กัปตันทีมท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์รายนี้มีโอกาสสูงมากที่จะต้องอยู่ค้าแข้งกับทีม “ไก่เดือยทอง” ต่อไปก่อนอีก 1 ฤดูกาลในยุคที่มีโชเซ่ มูรินโญ่คุมทีมแบบเต็มตัวเป็นฤดูกาลแรก ซึ่งหากไม่ประสบความสำเร็จเหมือนที่ผ่านมาอีก หลังจบฤดูกาลหน้าก็ควรถึงเวลาแล้วที่เขาจะย้ายออกจากทีมไปหาความสำเร็จกับสโมสรอื่นๆ ก่อนที่อายุเขาจะมากไปกว่านี้ และหลังจบฤดูกาลหน้า ทีมใหญ่ๆ น่าจะกลับมาพร้อมทุ่มเงินซื้อตัวกันอีกครั้ง และต้องหวังด้วยว่าดาเนี่ยล เลวี่ จะคาดหวังค่าตัวของเขาน้อยลง เพราะราคา 200 ล้านปอนด์นั้นไม่มีใครกล้าทุ่มเงินซื้อแน่ๆ แม้ว่าเคนจะเป็นกองหน้าระดับโลกอย่างแท้จริงก็ตาม