สถานีต่อไปของกาวานี่!

 เอดินสัน กาวานี่ กองหน้าทีมชาติอุรุกวัยวัย 33 ปีที่กำลังจะหมดสัญญากับปารีส แซงต์ แชร์กแมง ยอดทีมของศึกลีก เอิงในฝรั่งเศสหลังจบฤดูกาลนี้
เอดินสัน กาวานี่ กองหน้าทีมชาติอุรุกวัยวัย 33 ปีที่กำลังจะหมดสัญญากับปารีส แซงต์ แชร์กแมง ยอดทีมของศึกลีก เอิงในฝรั่งเศสหลังจบฤดูกาลนี้

 

 

             เอดินสัน กาวานี่ กองหน้าทีมชาติอุรุกวัยวัย 33 ปีที่กำลังจะหมดสัญญากับปารีส แซงต์ แชร์กแมง ยอดทีมของศึกลีก เอิงในฝรั่งเศสหลังจบฤดูกาลนี้ และจะทำให้เขาสามารถย้ายทีมได้อย่างอิสระในช่วงกลางปี ซึ่งในช่วงต้นปีที่ผ่านมาที่เขาสามารถเจรจากับว่าที่ต้นสังกัดใหม่ได้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคมแล้วตามกฎบอสแมน แต่คาวานี่ยังไม่ได้มีการตัดสินใจแต่อย่างใดในเรื่องอนาคตการค้าแข้งของเขา แม้ว่าจะมีสโมสรยักษ์ใหญ่ในยุโรปหลายทีมติดต่อเขาไปแล้วก็ตาม โดยในช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมาเขาตกเป็นข่าวกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และแอตเลติโก มาดริด ว่าอาจจะย้ายทีมตั้งแต่ตอนตลาดหน้าหนาวเลยด้วยซ้ำ แต่สุดท้ายก็เป็นเพียงแค่ข่าวลือเท่านั้น แต่ถึงอย่างไรก็ตามการที่เขายังไม่ได้ต่อสัญญาฉบับใหม่ออกไป และดูท่าแล้วเขาจะไม่ต่อสัญญากับทีมในเมืองหลวงของประเทศฝรั่งเศสอย่างแน่นอน ก็จะทำให้เขาจะปล่อยให้สัญญาจบลงเลยก็ได้ แล้วค่อยไปหาสังกัดใหม่อีกทีในช่วงปิดฤดูกาล เพราะถึงอย่างไรแล้วนักเตะอย่างเอดินสัน คาวานี่นั้นมีหลายทีมที่ต้องการตัวอย่างแน่นอนหลังจบฤดูกาลนี้ ทำให้ไม่ต้องกลัวจะไร้สังกัดในฤดูกาลหน้าเหมือนอย่างนักเตะรายอื่น ทำให้เขาไม่ต้องรีบร้อน และรอดูท่าทีของทีมอื่นๆ ที่สนใจเขาก่อนได้

 

            ก่อนหน้านี้นั้นเอดินสัน กาวานี่ ย้ายมาโลดแล่นในกัลโช่ เซเรีย อากับทีมปาแลร์โม่มาตั้งแต่ปี 2006-07 ซึ่งในช่วงฤดูกาลแรกๆ นั้นผลงานของเขาไม่ได้โดดเด่นแต่อย่างใด แต่เริ่มมามีแววดีในช่วงปี 2010 ทำให้เขาถูกนาโปลีคว้าตัวไปร่วมทีม ซึ่งที่นั่นเขาพัฒนาฝีเท้าตัวเองจนกลายเป็นกองหน้าระดับชั้นนำของวงการฟุตบอลอิตาลี เพราะ 3 ฤดูกาลกับทีมดังของเมืองเนเปิ้ลส์นั้นคาวานี่ทำประตูได้เป็นกอบเป็นกำทุกปี และกลายเป็นดาวซัลโวของศึกกัลโช่ เซเรีย อาด้วยในปี 2013 ที่ทำไปถึง 29 ประตู และติดทีมยอดเยี่ยมของลีกทั้ง 3 ฤดูกาลที่ค้าแข้งกับนาโปลี ทำให้ตอนนั้นเขากลายเป็นนักเตะเนื้อหอมมากๆ คนหนึ่งของวงการฟุตบอลยุโรป และสุดท้ายเขาตัดสินใจย้ายมาร่วมทีมปารีส แซงต์ แชร์กแมงในปี 2013 ด้วยค่าตัวสูงถึง 64 ล้านยูโรเลยทีเดียว ซึ่งหลังจากนั้นคาวานี่ก็กลายเป็นกองหน้าตัวหลักของทีมร่วมกับซลาตัน อิบราฮิโมวิช ก่อนที่จะมาร่วมงานกับเนย์มาร์ และคิลิยัน เอ็มบัปเป้ตามลำดับ แต่ในฤดูกาลนี้นั้นเขาถูกโธมัส ทูเคิ่ล กุนซือชาวเยอรมันของทีมลดบทบาทไปเยอะมาก เมื่อทีมไปคว้าตัวเมาโร อิคาร์ดี้ กองหน้าชาวอาร์เจนไตน์มาจากอินเตอร์ มิลานด้วยสัญญายืมตัว ทำให้เขาถูกดร็อปเป็นตัวสำรองมากขึ้น อีกทั้งยังเริ่มมีปัญหาอาการบาดเจ็บรบกวนอีก ทำให้ฤดูกาลนี้นั้นเป็นฤดูกาลที่คาวานี่ทำประตูได้น้อยที่สุดในรอบ 10 ปีเลยทีเดียว เมื่อจนถึงตอนนี้เขาทำไปได้เพียงแค่ 7 ประตูเท่านั้นในทุกรายการ จากการลงสนาม 22 นัด ซึ่งน่าจะเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้บอร์ดบริหารของปารีส แซงต์ แชร์กแมงตัดสินใจไม่ยอมต่อสัญญาฉบับใหม่กับเขา ซึ่งทีมแชมป์ของฝรั่งเศสนั้นกำลังจะมีการเปลี่ยนแปลงทีมครั้งใหญ่อีกครั้ง เพราะวกเขาไม่นิยมใช้นักเตะอายุเยอะในทีมเท่าไหร่นัก ซึ่งพวกเขาเริ่มจะมีนโยบายในการซื้อนักเตะดาวรุ่งอนาคตไกลเข้ามาสู่ทีมมากกว่า เพื่อที่จะไม่ต้องลงทุนซื้อนักเตะค่าตัวมหาศาลในทุกๆ ซัมเมอร์ ซึ่งพวกเขาอาจจะโดนกฏไฟแนนเชี่ยล แฟร์ เพลย์เล่นงานเข้าซักวันหนึ่ง หากว่าไม่มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายการซื้อนักเตะ เหมือนอย่างที่แมนเชสเตอร์ ซิตี้พึ่งโดนลงโทษไปเมื่อต้นปีที่ผ่านมา

 

            สถานีต่อไปของเอดินสัน คาวานี่นั้นยังดูไม่ออกว่าเขาจะตัดสินใจอย่างไรหลังจบฤดูกาลนี้ ซึ่งจากข่าวก่อนหน้านี้นั้นเชื่อว่าทีม “ตราหมี” ของดิเอโก้ ซิเมโอเน่นั้นมีภาษีดีกว่าแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดพอสมควรที่เขาอาจจะเลือกไปร่วมทีม แต่ในตอนนี้นั้นเหมือนว่าสถานการณ์จะเปลี่ยนไปแล้ว เพราะดูเหมือนว่าทีม “ปีศาจแดง” จะไม่ได้ต้องการกองหน้าตัวเป้าอีกต่อไป เมื่อพวกเขาค้นพบโอเดี้ยน อิกาโล่ กองหน้าทีมชาติไนจีเรียที่ยืมตัวมาจากจีนแล้วดันทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม ซึ่งทำให้พวกเขาอาจจะตัดสินใจซื้อขาดมาร่วมทีมอย่างถาวรหลังจบฤดูกาลนี้ ซึ่งถึงแม้ว่าอาจจะต้องเสียค่าตัวให้กับทีมในลีกจีนที่เป็นเจ้าของอิกาโล่อยู่ในตอนนี้ไปก้อนหนึ่ง แต่เรื่องของค่าเหนื่อยนั้นอดีตกองหน้าของวัตฟอร์ดรายนี้นั้นถูกกว่าเอดินสัน คาวานี่อย่างแน่นอน เพราะอิกาโล่ยอมลดค่าเหนื่อยจากตอนที่รับอยู่กับเซี่ยงไฮ้ เซินหัวเกือบครึ่งเลยทีเดียว ทำให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดไม่น่าจะหันกลับไปมองคาวานี่อีกในตอนจบฤดูกาลนี้ ทำให้ตัวเลือกของเอดินสัน คาวานี่อาจจะไม่ได้มากเหมือนเดิม และอาจจะไม่น่าสนใจเหมือนเดิมแล้วก็ได้ เพราะจนถึงตอนนี้สถานการณ์ของแอตเลติโก มาดริดในศึกลา ลีก้าก็ใช่ว่าพวกเขาจะได้ไปเล่นในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกฤดูกาลหน้าอย่างแน่นอนแต่อย่างใด เพราะตอนนี้พวกเขาต้องหล่นมาอยู่อันดับ 5 ของตารางเรียบร้อยแล้ว