กุนซือถาวรของ “เสือใต้”

กุนซือถาวรของ “เสือใต้”

ได้มีการประกาศอย่างเป็นทางการ ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับกุนซือคนใหม่แบบถาวร ของบาเยิร์น มิวนิค ซึงก็เป็นไปตามความคาดหมายของบรรดาสื่อเจ้าต่างๆ ที่ “ทีมเสือใต้” ได้แต่งตั้งฮันส์ ดีเตอร์ ฟลิกค์ กุนซือที่เข้ามารักษาการแทนนิโก้ โควัช กุนซือชาวโครเอเชียที่โดนปลดจากตำแหน่งไปเมื่อช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน

และสามารถพาทีมบาเยิร์น มิวนิคทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม ทำให้สโมสรตัดสินใจแต่งตั้งเป็นกุนซือถาวรทันที โดยจรดปากกาเซ็นต์สัญญากันจนถึงกลางปี 2023 เลยทีเดียว ซึ่งก็ถือว่าเป็นสิ่งที่เขาสมควรได้รับแล้ว เพราะหลังจากที่เขาเข้ามาทำหน้าที่รักษาการแทนในช่วงปลายปีที่แล้วนั้น อดีตผู้ช่วยของโยอาคิม เลิฟในทีมชาติเยอรมันรายนี้นั้นสามารถทำให้บาเยิร์น มิวนิคทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม

โดยเฉพาะในเกมรุกที่มีความดุดันกว่าเดิมอย่างมาก และไล่ถล่มคู่แข่งได้อย่างราบคาบเลยทีเดียวในช่วงที่ก่อนจะหยุดพักหนีเชื้อไวรัสโควิด 19 ไป ซึ่งฮันส์ ฟลิกค์สามารถทำให้นักเตะรายต่างๆ ของทีมทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมโดยเฉพาะโรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ กองหน้าทีมชาติโปแลนด์ที่กลับมาถล่มประตูได้อย่างสุดยอด และฟอร์มของเขาน่าจะดีที่สุดในช่วงตลอดอาชีพค้าแข้งที่ผ่านมาเลยด้วยซ้ำ

นอกจากนั้นยังทำให้นักเตะหลายๆ คนทำผลงานได้อย่างโดดเด่นอีกด้วย ทั้งแซร์จ นาบรี้ ปีกทีมชาติเยอรมัน และอัลฟอนโซ่ เดวิส อดีตปีกดาวรุ่งชาวแคนาดาที่เขาจับมาเล่นเป็นแบ็คซ้ายแล้วทำผลงานได้อย่างสุดยอด จนทำให้ดาบิด อลาบา เจ้าของสัมประทานเดิมต้องหลุดไปเป็นตัวสำรอง และมีข่าวว่าจะถูกขายออกจากทีมหลังจบฤดูกาลนี้ด้วย

  บาเยิร์น มิวนิคมักมีแนวทางการเลือกกุนซือที่ค่อนข้างไม่แน่นอน เพราะช่วงก่อนหน้านี้พวกเขามักจะเลือกใช้กุนซือชื่อดังที่ประสบความสำเร็จกับทีมอื่นๆ มาก่อน หรือมักเลือกกุนซือที่พรีเมี่ยม หรือขึ้นหิ้งมาแล้วนั่นเอง เพื่อเป็นการการันตีความสำเร็จได้ในระดับหนึ่ง ซึ่งช่วงก่อนหน้านี้ที่พวกเขายังไม่แต่งตั้งนิโก้ โควัชเข้ามาคุมทีมเมื่อประมาณ 2 ปีที่แล้วนั้น  “ทีมเสือใต้” มีข่าวกับยอดกุนซือของลีกบุนเดสลีก้าหลายคน ไม่ว่าจะเป็นโธมัส ทูเคิ่ล กุนซือหนุ่มที่ทำได้ดีกับโบรุสเซีย ดอร์ตมุนด์

และยังมีคะแนนในการสอบไลเซ่นส์ได้เป็นอันดับต้นๆ ของโลกด้วย หรือว่าจะเป็นจูเลี่ยน นาเกลส์มันน์ กุนซือหนุ่มผู้ทำให้ฮอฟเฟ่นไฮม์กลายมาเป็นทีมระดับหัวตารางของบุนเดสลีก้าได้ ซึ่งถือว่าโปรไฟล์ค่อนข้างโดดเด่นสำหรับ 2 คนนี้ แต่สุดท้ายพวกเขาดันไปเลือกนิโก้ โควัช กุนซือที่ทำให้ไอน์ทรัชต์ แฟรงค์เฟิร์ตคว้าแชมป์เดเอฟเบ โพคาลได้สำเร็จ โดยเอาชนะพวกเขาได้ในนัดชิงชนะเลิศ 3-1 นั่นเอง

ทีมเสือใต้” ได้แต่งตั้งฮันส์ ดีเตอร์ ฟลิกค์ เป็นกุนซือถาวร โดยจรดปากกาเซ็นต์สัญญากันจนถึงกลางปี 2023 เลยทีเดียว
ทีมเสือใต้” ได้แต่งตั้งฮันส์ ดีเตอร์ ฟลิกค์ เป็นกุนซือถาวร โดยจรดปากกาเซ็นต์สัญญากันจนถึงกลางปี 2023 เลยทีเดียว

 

ซึ่งหลังจากเกมนั้นไม่นานบาเยิร์น มิวนิคก็ได้มีการประกาศแต่งตั้งอดีตกองกลางกัปตันทีมชาติโครเอเชียเข้ามาเป็น กุนซือถาวร คนใหม่ของสโมสรทันที ซึ่งโควัชก็ทำให้ทีมประสบความสำเร็จโดยการรักษาแชมป์บุนเดสลีก้าได้ แต่ในถ้วยยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกนั้นกลับตกรอบ 16 ทีมสุดท้าย โดยแพ้ให้กับลิเวอร์พูลไป และพอเริ่มฤดูกาลใหม่ผลงานของทีมก็ไม่ค่อยสม่ำเสมอ และนัดที่เป็นฟางเส้นสุดท้ายก็คือพวกเขาไปโดนแฟรงค์เฟิร์ตถล่ม 1-5 จนทำให้นิโก้ โควัชต้องโดนปลดจากตำแหน่งในที่สุด

ฮันส์ ดีเตอร์ ฟลิกค์ ถือว่าเป็นกุนซือที่ไม่ค่อยมีชื่อเสียงมากนักในวงการฟุตบอลยุโรป เพราะก่อนหน้านี้เขาเคยคุมทีมแค่เพียงฮอฟเฟ่นไฮม์ในตอนปี 2000-2005 เท่านั้น และหลังจากนั้นเขาต้องลดบทบาทไปเป็นเพียงผู้ช่วยโค๊ชเท่านั้น แต่ผลงานที่โดดเด่นของเขาก็คือการเป็นผู้ช่วยของโยอาคิม เลิฟในทีมชาติเยอรมันมาตั้งแต่ปี 2006 มาจนถึงปี 2014 ที่ทัพ “อินทรีย์เหล็ก” คว้าแชมป์ฟุตบอลโลกได้สำเร็จนั่นเอง

ซึ่งหลังจากนั้นเขาก็ขยับขึ้นมาเป็นผู้อำนวยการกีฬาของสมาพันธ์ฟุตบอลเยอรมัน หรือว่าเดเอฟเบหลังจบฟุตบอลโลกที่บราซิล ซึ่งเขาทำมาจนถึงต้นปี 2017 ก่อนที่จะว่างงานไปเกือบ 2 ปีแล้วค่อยกลับมาเป็นผู้ช่วยของนิโก้ โควัชในบาเยิร์น มิวนิคอีกครั้งก่อนเริ่มฤดูกาลนี้

ถึงแม้ว่ากุนซือวัย 55 ปีรายนี้จะเป็นกุนซือที่โลว์ โปรไฟล์ในสายตาแฟนบอลหลายๆ คน เพราะเขาไม่เคยประสบความสำเร็จในการคุมทีมแบบเต็มตัวมาก่อน แม้ว่าสมัยเป็นนักเตะเขาจะได้แชมป์กับบาเยิร์น มิวนิคหลายรายการก็ตาม แต่เขาถือว่าเป็นผู้คร่ำหวอดในวงการฟุตบอลเยอรมันเลยก็ว่าได้

และด้วยการวางแท็คติกในช่วงที่ผ่านมาก็พอจะเห็นได้ว่ากุนซือรายนี้ไม่ธรรมดาเลยทีเดียว กับการทำให้บาเยิร์น มิวนิคเปลี่ยนแปลงสไตลย์การเล่นมาเป็นทีมที่มีเกมรุกที่ดุดัน และจัดจ้านได้อย่างรวดเร็ว แม้ว่าจะร้างสนามจากการคุมทีมข้างสนามไปนานก็ตาม แต่การมอบสัญญาให้ถึง 3 ปีของบาเยิร์น มิวนิคก็พอจะเห็นได้ว่าพวกเขาเชื่อมั่นในฝีมือการคุมทีมของฮันส์ ดีเตอร์ ฟลิกค์เป็นอย่างมาก ซึ่งหลังจากที่พักเบรกหนีหนาวกลับมาในช่วงเดือนมกราคม บาเยิร์น มิวนิคเป็นทีมที่ทำผลงานได้ดีที่สุดในทวีปยุโรปเลยก็ว่าได้ เมื่อเก็บชัยชนะได้อย่างต่อเนื่อง และยังไม่แพ้ให้กับทีมไหนเลยในปีนี้