ผลดีกับอังกฤษ!

ผลดีกับอังกฤษ!

ทางสมาพันธ์ฟุตบอลยุโรป หรือว่าทางยูฟ่า ได้ออกมาประกาศเป็นที่เรียบร้อยแล้วว่าจะมีการเลื่อนการแข่งขันทัวร์นาเม้นต์ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป หรือยูโร 2020 ที่ตอนแรกจะจัดขึ้นในวันที่ 12 มิถุนายน ถึง 12 กรกฏาคมในช่วงกลางปีนี้ โดยเลื่อนกันไปแข่งในกลางปีหน้าในช่วงวันที่ 11 มิถุนายน ถึง 11 กรกฏาคม 2021 แทน หลังจากที่บรรดาลีกชาติสมาชิกของสมาพันธ์ฟุตบอลยุโรปชาติต่างๆ ต่างได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด 19 ทำให้ทุกลีกต้องถูกระงับการแข่งขันออกไป หลังจากที่ไวรัสแพร่กระจายอย่างหนักมายังทวีปยุโรปในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ทำให้ลีกต่างๆ ไม่สามารถแข่งขันให้จบฤดูกาลตามกำหนดเดิมที่วางไว้ได้ ทำให้ทางยูฟ่าทำการตัดสินใจเลื่อนทัวร์นาเม้นต์ยูโรออกไป เพราะก็ยังไม่รู้ว่าหากถึงช่วงการแข่งขันเดิมจริง ตัวไวรัสตัวนี้จะยังระบาดอยู่หรือไม่ และด้วยการเป็นทัวร์นาเม้นต์แรกที่มีทีมเจ้าภาพกว่า 11 ประเทศ ทำให้ไวรัสตัวนี้อาจจะระบาดหนักขึ้นกว่าเดิมหากว่าพวกเขาดึงดันจะจัดการแข่งขันต่อไป ทำให้ทางยูฟ่าตัดสินใจเลื่อนทัวร์นาเม้นต์ดังกล่าวเพื่อเปิดทางให้กับลีกของชาติสมาชิกต่างๆ ในยุโรปได้ทำการขยายเวลาของฤดูกาลออกมาได้ถึง 30 มิถุนายน เพื่อทำการแข่งขันฤดูกาลที่ยังคงค้างคาอยู่ให้จบฤดูกาลนี้ไปให้ได้ หากว่าสถานการณ์การระบาดของไวรัสโคโรน่าไม่ย่ำแย่ไปมากกว่านี้

การเลื่อนทัวร์นาเม้นต์ศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรปในครั้งนี้ไปเป็นช่วงกลางปีหน้านั้น ทำให้ส่งผลกระทบต่อปฏิทินฟุตบอลของสมาพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือว่าทางฟีฟ่าทันที ซึ่งในช่วงกลางปีหน้าพวกเขามีโปรแกรมจะทำศึกสโมสรโลกในรูปแบบใหม่ที่จะเตะกัน 4 ปีครั้ง โดยนำ 24 สโมสรจาก 6 ทวีปมาทำการแข่งขันในรูปแบบของทัวร์นาเม้นต์แทนในช่วงกลางปี จากที่ก่อนหน้านี้ฟุตบอลสโมสรโลกจะแข่งขันกันในช่วงปลายปี หรือว่าต้นปีเป็นประจำ ซึ่งทำให้ทัวร์นาเม้นต์สโมสรโลกน่าจะต้องถูกระงับไปก่อน เพื่อเปิดทางให้กับศึกฟุตบอลที่ใหญ่กว่าอย่างศึกยูโร และโกปา อเมริกาที่ก็จะเลื่อนไปแข่งขันกันในช่วงกลางปีหน้าเช่นกัน

ซึ่งหากว่ายังคงมีการแข่งขันฟุตบอลยูโรในช่วงกลางปีนี้นั้น ทีมชาติอังกฤษ ของแกเร็ธ เซาธ์เกต อาจจะต้องปวดหัวมากทีเดียว เพราะพวกเขาอาจจะต้องขาดแฮร์รี่ เคน กองหน้ากัปตันทีมคนสำคัญที่ยังคงบาดเจ็บไม่หายมาตั้งแต่ช่วงต้นปีจากนัดที่ช่วยทีมท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์บุกไปแพ้ให้กับเซาธ์แฮมป์ตันที่เซนต์ แมร์รี่ 0-1 ในวันขึ้นปีใหม่พอดี ซึ่งจนถึงตอนนี้เขาก็ยังไม่สามารถกลับมาซ้อมกับเพื่อนร่วมทีมได้แต่อย่างใด และมีทีท่าว่าอาจจะกลับมาไม่ได้แล้วด้วยซ้ำในฤดูกาลนี้ แม้ว่าฤดูกาลอาจจะขยายเวลาออกไปอีกก็ตาม นอกจากนั้นยังมีในรายของมาร์คัส แรชฟอร์ด ตัวรุกดาวรุ่งของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดอีกราย ที่ก็ยังไม่หายจากการบาดเจ็บบริเวณสะโพกที่บาดเจ็บมาตั้งแต่ช่วงเดือนมกราคม และตอนนี้ก็ยังไม่หายจากอาการบาดเจ็บกลับมาช่วยทีม “ปีศาจแดง” ได้เช่นกัน ซึ่งทั้ง 2 คนนี้ถือว่าเป็นดาวเตะคนสำคัญในแนวรุกของ ทีมชาติอังกฤษ ในยุคของแกเร็ธ เซาธ์เกตเลยทีเดียว ถึงแม้ว่าตอนนี้ขุมกำลังของ “สิงโตคำราม” จะยอดเยี่ยมขึ้นมากกว่าแต่ก่อนแล้วก็ตาม เมื่อมีนักเตะดาวรุ่งหลายคนที่ก้าวขึ้นมาทำผลงานได้อย่างโดดเด่น บวกกับการพัฒนาระบบเยาวชนของสมาคมฟุตบอลอังกฤษที่ทำให้ทีมชาติอังกฤษชุดยู 17 และยู 20 สามารถคว้าแชมป์โลกมาครองได้เป็นที่เรียบร้อยแล้วในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ซึ่งพวกเขากำลังอยู่ในช่วงผลิกนักเตะดาวรุ่งก้าวขึ้นมาโดดเด่นบนเวทีพรีเมียร์ลีกได้หลายคนทีเดียว ซึ่งเจดอน ซานโช่ ปีกของโบรุสเซีย ดอร์ตมุนด์ก็ถือว่าเป็นหนึ่งในผลผลิตของ ทีมชาติอังกฤษ ที่กำลังก้าวขึ้นไปเป็นนักเตะระดับโลกอยู่ในเวลานี้ รวมถึงยังมีนักเตะอีกหลายคนที่กำลังทำผลงานได้ดีกับต้นสังกัดของพวกเขาทั้งโดมินิค คัลเวิร์ต เลวิน กองหน้าฟอร์มแรงจากเอฟเวอร์ตัน หรือเจมส์ แมดดิสัน และแจ็ค กรีลิช 2 เพลย์เมคเกอร์หนุ่มที่กำลังจะกลายเป็นขาประจำของทีมชาติอังกฤษในเร็ววันนี้ แต่ถึงอย่างไรก็ตามการที่พวกเขาอาจจะขาด 2 กำลังสำคัญอย่างแฮร์รี่ เคน และมาร์คัส แรชฟอร์ดนั้นจะส่งผลกระทบต่อการจบสกอร์ของทีมอย่างแน่นอน หากว่าศึกยูโรยังมีกำหนดเตะตามเดิมคือช่วงกลางปีนี้

ทีมชาติอังกฤษ
ทีมชาติอังกฤษ

การย้ายทัวร์นาเม้นต์ยูโรไปเตะกันในช่วงกลางปีหน้าที่เรื่องไวรัสโควิด 19 น่าจะหายจากโลกนี้ไปหมดแล้ว จะทำให้ทีมชาติต่างๆ มีเวลาในการเตรียมทีมเพิ่มอีก 1 ปี ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องดีสำหรับทีมชาติที่กำลังมีนักเตะหนุ่มอยู่ในทีมมากมาย ซึ่งเวลา 1 ปีสามารถจะทำให้พวกเขาเติบโต และเก่งขึ้นได้อีกมากทีเดียว อย่างเช่นทีมชาติอังกฤษ หรือทีมชาติเนเธอร์แลนด์เป็นต้น ที่ตอนนี้พวกเขามีนักเตะหนุ่มเป็นแกนหลัก แต่จะเป็นการแย่ทันทีสำหรับทีมชาติที่มีนักเตะอายุเยอะเป็นแกนหลัก อย่างเช่นทีมชาติอิตาลีเป็นต้น ที่ถึงแม้ว่าโรแบร์โต้ มันชินี่ กุนซือของทีมพยายามจะเปลี่ยนถ่ายเลือดใหม่ในการใช้นักเตะหนุ่มหลายคนแล้ว แต่พวกเขาก็ยังคงต้องพึ่งนักเตะตัวเก๋าอยู่หลายราย ซึ่งเวลา 1 ปีที่เสียไปนั้นจะทำให้นักเตะอายุเยอะนั้นจะมีสภาพร่างกายที่โรยราขึ้นไปอีก ซึ่งอาจจะเป็นปัจจัยสำคัญในการแย่งแชมป์ยูโรในครั้งนี้เลยด้วยซ้ำ

ตัวเต็งแชมป์ของศึกฟุตบอลยูโรในครั้งนี้ยังคงต้องยกให้กับทีมชาติฝรั่งเศส แชมป์โลกทีมล่าสุดที่รัสเซียเป็นเจ้าภาพเมื่อ 2 ปีก่อน ซึ่งพวกเขาสามารถยกทัพชุดนั้นมาแข่งในยูโรครั้งนี้ได้ทั้งหมด เพราะนักเตะตัวหลักของพวกเขานั้นยังอยู่ในช่วงพีคของอาชีพการค้าแข้งอีกหลายคน และไม่ใช่เพียงแค่ยูโรครั้งนี้เท่านั้นที่พวกเขายังเป็นตัวเต็ง แต่ยังรวมไปถึงสึกฟุตบอลโลกในอีก 2 ปีข้างหน้าที่กาต้าร์จะเป็นเจ้าภาพด้วย ที่ทัพ “ตราไก่” ก็ยังคงเป็นตัวเต็งที่จะรักษาแชมป์โลกไว้ได้ เพราะพอถึงปีนั้นนักเตะหลายคนจะอยู่ในช่วงอายุที่เป็นจุดสูงสุดของอาชีพการค้าแข้งพอดี ทั้งปอล ป็อกบา ราฟาเอล วาราน รวมถึงยอดดาวเตะอย่างคิลิยัน เอ็มบัปเป้ ที่จะโชกโชนกว่าตอนนี้อีกด้วย โดยมีเพียงโอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ กองหน้าตัวเป้าของพวกเขาเท่านั้นที่อาจจะอายุมากเกินไปแล้วในอีก 1-2 ปีข้างหน้า แต่แทบไม่มีปัญหากับทีมชาติฝรั่งเศส เพราะพวกเขามีดาวรุ่งที่จะก้าวขึ้นมาแทนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ไม่ว่าจะเป็นอ็องโตนี่ มาร์กซิยาล หรือมุสซ่า เดมเบเล่ กองหน้าดาวยิงจากโอลิมปิก ลียงเป็นต้น

นอกจากทีมชาติอังกฤษ และทีมชาติฝรั่งเศสที่เป็นตัวเต็งในยูโรกลางปีหน้าแล้ว อีกทีมหนึ่งที่ลืมไม่ได้เลยก็คือแชมป์เก่าของศึกยูโรอย่างทีมชาติโปรตุเกสนั่นเอง ที่คราวที่แล้วพลิกล็อคเอาชนะทีมชาติฝรั่งเศสที่เป็นเจ้าภาพได้สำเร็จในนัดชิงชนะเลิศ แม้ว่าคริสเตียโน่ โรนัลโด้ ดาวยิงคนสำคัญของทีมจะได้รับบาดเจ็บไปตั้งแต่ช่วงครึ่งแรกก็ตาม ซึ่งยูโรหนนี้โรนัลโด้ก็ยังรักษาสภาพร่างกายได้อย่างยอดเยี่ยม และน่าจะนำทัพทีมฝอยทองมาสู้ศึกตามเดิม แต่คราวนี้เขาน่าจะมีตัวช่วยในการทำเกมรุกที่ดีขึ้นจากครั้งก่อน เมื่อเขาจะมีทั้งแบร์นาโด้ ซิลวา และบรูโน่ แฟร์นันดส์ 2 กองกลางจากทีมในเมืองแมนเชสเตอร์มาคอยสนับสนุน รวมถึงการก้าวขึ้นมาของชูเอา เฟลิกซ์ ตัวรุกดาวรุ่งจากแอตเลติโก มาดริดด้วย ที่น่าจะแบ่งเบาภาระในการทำประตูของทีมไปได้บ้าง และกุนซือของโปรตุเกสก็ยังคงเป็นเฟร์นานโด ซานโตสเหมือนเมื่อยูโรครั้งที่แล้วด้วย