ช่วงเวลาของ นอร์เวย์!

ช่วงเวลาของนอร์เวย์!

บรรดาทีมชาติต่าง ๆ ของวงการฟุตบอลนั้น มักจะมีช่วงที่รุ่งเรือง และช่วงที่ร่วงโรย สลับกันไป เพราะทีมชาติเหล่านั้น ไม่สามารถเปลี่ยนถ่าย สายเลือดนักเตะใหม่ได้ดีตลอดเวลานั่นเอง ทำให้หลาย ๆ ชาติ มักมีช่วงเวลาที่ตกต่ำเช่นกัน

และก็ต้องเคยมีช่วงที่รุ่งเรืองด้วยเช่นกัน ซึ่งเกิดได้กับทุกชาติ ไม่ว่าจะเป็นชาติยักษ์ใหญ่ของวงการฟุตบอลอย่างทีมชาติอิตาลีก็ตาม ที่ในช่วง 2 ปีก่อนหน้านี้พวกเขาถือว่าเป็นชาติที่ตกต่ำไปแล้วในตอนนั้น เมื่อพวกเขาไม่สามารถผ่านเข้าสู่ฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายในปี 2018 ได้

เนื่องจากพวกเขาไม่มีนักเตะดาวรุ่งที่ก้าวขึ้นมาเป็นกำลังหลักในทีมชาติได้เลยในตอนนั้น ส่วนชาติที่ประสบความสำเร็จในช่วงที่ผ่านมาก็มีหลายชาติ เพราะทีมชาติเหล่านั้นมีช่วงเวลาโกลเด้น เจเนเรชั่นนั่นเอง หรือช่วงเวลาที่นักเตะดาวรุ่งผุดขึ้นมาทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม ในวงการฟุตบอลยุโรป จนก้าวขึ้นมาเป็นกำลังสำคัญของทีมชาติชุดใหญ่

ยกตัวอย่างเช่นทีมชาติเบลเยี่ยมเป็นต้น ที่นักเตะยุคทองของพวกเขานั้นก้าวขึ้นมาได้พร้อมๆ กันหลายคน จนทำให้ทีมชาติเบลเยี่ยมในตอนนี้นั้นล้วนอุดมสมบูรณ์ไปด้วยนักเตะระดับซุเปอร์สตาร์มากมาย และสามารถจัดได้ 2 ทีมดีๆ เลยด้วยซ้ำในตอนนี้ เพราะพวกเขามีตัวเลือกให้ใช้งานนักเตะหลายคนนั่นเอง

ทีมชาติ นอร์เวย์ ทีมชาติเล็กๆ ในแถบสแกนดิเนเวียก็เคยมีช่วงเวลาที่รุ่งโรจน์เช่นกัน โดยเฉพาะในยุคช่วงประมาณปี 2000 ที่พวกเขามีนักเตะทีมชาติที่ค้าแข้งอยู่ในพรีเมียร์ลีกมากมาย ทั้งโอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ กองหน้าตัวดังของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และทอเร่ อังเดร โฟล กองหน้าร่างสูงของสโมสรเชลซี นอกจากนั้นยังมีเฮ็นนิ่ง เบิร์ก และรอนนี่ ยอห์นเซ่น 2 กองหลังจากทีม “ปีศาจแดง” เป็นกองหลังตัวหลักของทีมชาติ ส่วนกองกลางก็มีออยวินด์ ลีออนฮาร์ด

เช่น กองกลางของสโมสรลิเวอร์พูลอยู่ในทีมชาติด้วย ซึ่งทำให้ทีมชาติ นอร์เวย์ ในช่วงนั้นประสบความสำเร็จในระดับหนึ่งเลยทีเดียว เพราะพวกเขาสามารถผ่านเข้าไปเล่นในรอบสุดท้ายของฟุตบอลทัวร์นาเม้นต์รายการใหญ่ได้ตลอด ตั้งแต่ฟุตบอลโลก 1998 และศึกยูโร 2000 ที่พวกเขาก็เข้ารอบสุดท้ายได้เช่นกัน โดยในฟุตบอลโลกที่ฝรั่งเศสพวกเขาผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายได้ด้วยซ้ำ             ส่วนศึกยูโรนั้นพวกเขาตกรอบแบ่งกลุ่มไปเสียก่อน แต่ถือว่าเป็นช่วงเวลาที่ชาติเล็กๆ อย่างนอร์เวย์ถือว่าประสบความสำเร็จแล้วในวงการฟุตบอล ที่สามารถเข้าไปเล่นในรอบสุดท้ายของฟุตบอลรายการใหญ่ได้สำเร็จ

เพราะหลังจากนั้นมาเป็นเวลา 20 ปีแล้ว ทีม “ไวกิ้ง” ไม่สามารถผ่านเข้าไปเล่นในรอบสุดท้ายได้เลย เพราะในช่วง 2 ทศวรรษที่ผ่านมา นอร์เวย์ไม่สามารถผลิตนักเตะฝีเท้าดีขึ้นมาประดับวงการฟุตบอลได้เลย ทำให้ทีมชาติของพวกเขากลายเป็นทีมรองบ่อนในระดับชาติไปเลยในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งในศึกรอบคัดเลือกฟุตบอลยูโร 2020 ที่ผ่านพ้นไปก็เช่นกัน ซึ่งพวกเขาดีขึ้นมาบ้างแล้ว แต่ก็ทำได้เพียงแค่อันดับที่ 3 ของกลุ่มเท่านั้น และต้องแพ้ให้กับทีมชาติสเปน และทีมชาติสวีเดนไป

 

กองกลางของสโมสรลิเวอร์พูลอยู่ในทีมชาติด้วย ซึ่งทำให้ทีมชาติ นอร์เวย์ ในช่วงนั้นประสบความสำเร็จในระดับหนึ่ง
กองกลางของสโมสรลิเวอร์พูลอยู่ในทีมชาติด้วย ซึ่งทำให้ทีมชาติ นอร์เวย์ ในช่วงนั้นประสบความสำเร็จในระดับหนึ่ง

แต่หลังจากนี้อาจจะเป็นช่วงเวลาของทีมชาตินอร์เวย์ บ้างแล้ว เมื่อในตอนนี้พวกเขาปลุกปั้นนักเตะให้ก้าวขึ้นมาเป็นกำลังสำคัญของชาติได้แล้วถึง 2 คนในตอนนี้ โดยคนแรกคือเออร์ลิ่ง เบราต์ ฮาแลนด์ กองหน้าดาวรุ่งวัย 19 ปีที่กำลังร้อนแรงที่สุดคนหนึ่งของวงการฟุตบอลยุโรปในตอนนี้ ที่เขาสามารถก้าวขึ้นมาเป็นกองหน้าระดับชั้นนำของยุโรปได้อย่างรวดเร็ว

จากเมื่อ 2 ปีที่แล้วเขายังค้าแข้งอยู่กับทีมโมลด์ในบ้านเกิดอยู่ดีๆ แต่ในตอนนี้เขากลับกลายเป็นกองหน้าคนสำคัญของโบรุสเซีย ดอร์ตมุนด์ ทีมชั้นนำของศึกบุนเดสลีก้าเยอรมัน ซึ่งในตอนนี้เขาได้รับความสนใจจากยอดทีมของยุโรปอย่างเรอัล มาดริด และบาร์เซโลน่าด้วยซ้ำ จากผลงานกับทีม “เสือเหลือง”

ในช่วงที่ผ่านมา ส่วนอีกคนนั้นคือมาร์ติด โอเดการ์ด เพลย์เมคเกอร์ดาวรุ่งของเรอัล มาดริด ที่ฤดูกาลนี้เขาถูกปล่อยให้กับเรอัล โซเซียดาด ในสเปนยืมตัวไปใช้งาน ซึ่งดาวรุ่งรายนี้โด่งดังมาตั้งแต่ยังเด็ก และเล่นให้กับทีมชุดยู 21 ของนอร์เวย์มาตั้งแต่อายุ 16 ปีด้วยซ้ำ แต่พอย้ายไปอยู่กับทีม “ราชันย์ชุดขาว” เมื่อปี 2015 เขาไม่ได้รับโอกาสให้ลงสนามเลย

ทำให้เขาต้องถูกปล่อยให้กับทีมอื่นยืมตัวไปใช้งานหลายปี ทำให้เขาเสียเวลากับการหยุดพัฒนาไปบ้าง แต่ในฤดูกาลนี้เขากลับมาอยู่ในเส้นทางการค้าแข้งที่ดีอีกครั้ง และถือว่าทำผลงานได้อย่างโดดเด่นทีเดียวกับการยืมตัวครั้งนี้ และคาดว่าฤดูกาลหน้าเขาจะกลับมาอยู่ในทีมของซีเนอดีน ซีดานอีกครั้ง

การที่ทีมชาตินอร์เวย์มี 2 นักเตะตัวรุกระดับชั้นนำของยุโรปอยู่ในทีมเวลานี้นั้น ทำให้พวกเขามีโอกาสที่จะกลับมาประสบความสำเร็จได้อีกครั้งหนึ่งในเร็วๆ นี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งศึกยูโรครั้งหน้าพวกเขาน่าจะได้ลุ้นมากทีเดียวที่จะกลับไปเล่นในรอบสุดท้ายได้อีกครั้ง แต่ในศึกฟุตบอลโลกที่กาต้าร์ในปี 2022 นั้นอาจจะยังยากไปซักหน่อยกับการมีแค่ 2 นักเตะดาวเด่น ซึ่งพวกเขายังต้องมีดาวรุ่งเข้ามาช่วยทีมมากกว่านี้ หากว่าอยากจะไปเล่นฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย