ทีมได้ประโยชน์จากการพักยาว!

                ในช่วงนี้ฟุตบอลแต่ละลีกก็หยุดเตะกันไปเกือบหมดทั้งโลกแล้ว จากการระบาดของไวรัสโควิด 19 ทำให้วงการกีฬา และเศรษฐกิจโลกนั้นซบเซาไปตามๆ กัน ซึ่งในช่วงก่อนที่จะปิดหนีไวรัสไปนั้น มีทีมหนึ่งในพรีเมียร์ลีกที่กำลังทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม ซึ่งก็คือแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดของโอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์นั่นเอง ที่สามารถเก็บชัยชนะได้อย่างต่อเนื่อง และไม่แพ้ใครใน 11 นัดหลังสุดในทุกรายการ และสามารถรักษาคลีนชีต หรือว่าไม่เสียประตูๆได้ถึง 9 นัดเลยทีเดียว และทำให้พวกเขามีความหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้โควต้าไปเล่นในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกฤดูกาลหน้าตามที่ได้ตั้งเป้าเอาไว้ ไม่ว่าจะเป็นการทำอันดับในลีก หรือทางลัดอย่างการเป็นแชมป์ยูโรป้า ลีกก็ตาม ซึ่งก็ถือว่าน่าเสียดายแทน “ปีศาจแดง” ไม่น้อยที่ในตอนที่พวกเขาฟอร์มกำลังดีก็เกิดเหตุโรคระบาดขึ้นเสียก่อน แต่ถึงอย่างไรก็ตามความปลอดภัยของทุกคนนั้นต้องมาก่อนเป็นอันดับแรกเสมอ

 

              แต่ก็มีอีกทีมเช่นกันที่เหมือนว่ากำลังเมาหมัด และต้องการระฆังมาคั่นเวลา ซึ่งก็คือท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ของโชเซ่ มูรินโญ่นั่นเอง ซึ่งทีมของเขานั้นฟอร์มย่ำแย่มากๆ ในช่วง 5 นัดหลังสุดก่อนที่จะมีการหยุดเตะไป โดยทีม “ไก่เดือยทอง” ต้องตกรอบฟุตบอลถ้วยไปถึง 2 รายการ ทั้งในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกที่แพ้อย่างหมดสภาพให้กับไลป์ซิก ทีมฟอร์มแรงจากเยอรมันแบบทั้งไป ทั้งกลับ และในศึกเอฟเอ คัพก็มาพ่ายคาบ้านในการดวลจุดโทษกับนอริช ซิตี้อีก ทำให้กระเด็นตกรอบไปเรียบร้อย ทำให้ฤดูกาลนี้ก็เป็นอีกปีหนึ่งที่ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์จะไม่มีแชมป์ติดมืออย่างแน่นอนแล้ว ทำให้พวกเขาต้องรอแชมป์ต่อไป โดยแชมป์รายการสุดท้ายที่สเปอร์สามารถคว้ามาครองได้สำเร็จต้องย้อนไปเมื่อปี 2008 เลยทีเดียว ที่พวกเขาเป็นแชมป์ลีก คัพที่เล็ดลี่ย์ คิง กองหลังกัปตันทีมในตอนนั้นได้เป็นคนชูถ้วย แต่ 12 ปีที่ผ่านมาพวกเขาไม่เคยกลับไปประสบความสำเร็จคว้าแชมป์รายการใดๆ ได้อีกเลย แม้ว่าในช่วงที่ผ่านมานั้นทีมของพวกเขามีการพัฒนาจากเดิมไปมากแล้วก็ตามในเรื่องของมาตรฐานในลีก แต่ก็ยังไม่สามารถเป็นแชมป์รายการใดๆ ได้เสียที ซึ่งเป็นปัจจัยหลักที่พวกเขาเลือกโชเซ่ มูรินโญ่เข้ามาคุมทีมนั่นเอง

 

ในช่วงนี้ฟุตบอลแต่ละลีกก็หยุดเตะกันไปเกือบหมดทั้งโลกแล้ว จากการระบาดของไวรัสโควิด 19 ทำให้วงการกีฬา และเศรษฐกิจโลกนั้นซบเซาไปตามๆ กัน
ในช่วงนี้ฟุตบอลแต่ละลีกก็หยุดเตะกันไปเกือบหมดทั้งโลกแล้ว จากการระบาดของไวรัสโควิด 19 ทำให้วงการกีฬา และเศรษฐกิจโลกนั้นซบเซาไปตามๆ กัน

 

 

               นับตั้งแต่ที่โชเซ่ มูรินโญ่เข้ามาคุมทีมต่อจากเมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ที่โดนไล่ออกไปในเดือนพฤศจิกายน สเปอร์ก็มีทั้งช่วงเวลาที่ดีที่สามารถเก็บชัยชนะได้อย่างต่อเนื่อง แต่ก็มีช่วงเวลาที่ไม่ชนะติดต่อกันหลายนัดเช่นกัน ทำให้ในตอนนี้ทีมต้องตกมาอยู่ถึงอันดับที่ 8 ของตารางคะแนนแล้ว และมีแนวโน้มที่พวกเขาจะพลาดการไปเล่นฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกมากขึ้นเรื่อยๆ ด้วย เนื่องจากก่อนหน้าที่จะมีการเบรคหยุดพักการแข่งขันไป สเปอร์มีปัญหาในเรื่องของขุมกำลังในแนวรุกเป็นอย่างมาก เพราะบรรดาตัวหลักต่างทยอยบาดเจ็บล้มหายตายจากไปหมด ไล่มาตั้งแต่แฮร์รี่ เคน กองหน้ากัปตันทีมที่เจ็บตั้งแต่วันขึ้นปีใหม่ มาจนถึงซน ฮึงมิน กองหน้าทีมชาติเกาหลีใต้ที่มาแขนหักไปอีกรายในนัดที่บุกแพ้ให้กับเชลซี 1-2 .ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ทำให้โชเซ่ มูรินโญ่ต้องหันมาใช้ระบบ False 9 อยู่หลายนัดโดยการไม่มีกองหน้าอยู่ในรายชื่อ 11 ตัวจริงเลยในตอนนั้น ทำให้พวกเขามีผลงานที่ย่ำแย่ขึ้นเรื่อยๆ เมื่อไม่สามารถทำประตูได้มากเท่าที่ควรจากการขาดหายไปของกองหน้า ซึ่งเป็นเหตุที่ทำให้สเปอร์หลุดฟอร์มไปในช่วงก่อนพักเบรก ซึ่งถือว่าระฆังเข้ามาช่วยท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ได้ถูกเวลาพอดี เพราะหากเล่นต่อไปจากตอนนั้นดูทรงแล้วพวกเขามีแต่สถานการณ์จะแย่ลงกว่าเดิมอย่างแน่นอน

 

                  ในตอนนี้ที่ศึกพรเมียร์ลีกอังกฤษได้มีการเลื่อนกำหนดการจากเดิมที่จะกลับมาแข่งกันในช่วงเดือนเมษายน และเลื่อไปอีกครั้งในเดือนพฤษภาคมนั้น ซึ่งล่าสุดพวกเขาก็กำหนดวันใหม่เป็นช่วงเดือนมิถุนายนแทน หลังจากเห็นการระบาดที่หนักขึ้นในประเทศอังกฤษ ทำให้หากพรีเมียร์ลีกกลับมาเตะกันใหม่ในตอนนั้น ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์จะถือว่าเป็นทีมที่ได้ประโยชน์ที่สุดจากการหยุดพักหนีไวรัสครั้งนี้เลยก็ว่าได้ เพราะพวกเขาจะได้แฮร์รี่ เคน กองหน้าตัวเก่งของทีมกลับมาช่วยทีมได้ในตอนนั้น รวมถึงซน ฮึงมินก็เช่นกัน และจะทำให้ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์กลับมาฟูลทีมอีกครั้งในช่วงกลางปีนี้นั่นเอง ซึ่งก็อาจจเหมือนกับทีมอื่นๆ ที่ก็จะได้นักเตะที่บาดเจ็บอยู่ก่อนหน้านี้หายกลับมาด้วยกันทั้งหมด แต่ทีม “ไก่เดือยทอง” นั้นถือว่าได้ประโยชน์ที่สุดกับการได้ 2 กองหน้าคนสำคัญของทีมกลับมา เพราะหากว่าเป็นโปรแกรมตามปกตินั้น แฮร์รี่ เคนจะไม่สามารถกลับมาช่วยทีมในฤดูกาลนี้ได้อย่างแน่นอน ซึ่งก็ต้องมาดูกันในตอนที่พรีเมียร์ลีกกลับมาเตะอีกครั้ง ว่าแฮร์รี่ เคน และหมู่คณะ จะสามารถทำให้ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ กลับมาทวงสิทธิ์ในการไปเล่นศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกฤดูกาลหน้าได้หรือไม่ ซึ่ง 3 ปีหลังนั้นพวกเขาได้โควต้าไปเล่นในถ้วยใหญ่ของยุโรปมาโดยตลอด