จุดที่หงส์ต้องอัพเกรด!
ลิเวอร์พูล ว่าที่แชมป์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก ประจำฤดูกาลนี้ ถือว่าทำผลงานได้อย่างสุดยอด และเกือบทำสถิติเป็นอีกทีม ที่สามารถคว้าแชมป์ด้วยการไร้พ่าย เหมือนกับอาร์เซน่อลในฤดูกาล 2003-2004 ด้วยซ้ำ แต่ว่าพวกเขาดันไปพ่ายให้กับวัตฟอร์ด 0-3 เสียก่อนในนัดที่ 27 ของฤดูกาล ทำให้พวกเขาอดทำสถิติไร้พ่ายอย่างน่าเสียดาย แต่อย่างน้อยพวกเขา ก็ถือถ้วยแชมป์พรีเมียร์ลีกอยู่ในมือแล้ว ในช่วงที่พรีเมียร์ลีก เหลือการแข่งขันอีกเพียงแค่ 9 นัดเท่านั้น แต่พวกเขามีคะแนนนำรองจ่าฝูงอย่างแมนเชสเตอร์ ซิตี้อยู่ถึง 25 คะแนนเลยทีเดียว
ถึงแม้ว่าทีม “เรือใบสีฟ้า” จะแข่งขันน้อยกว่าอยู่ 1 นัดก็ตาม แต่ ลิเวอร์พูล ต้องการเก็บชัยชนะอีกเพียง 2 นัดเท่านั้น ก็จะสามารถคว้า แชมป์พรีเมียร์ลีก มาครองได้สำเร็จ ซึ่งถือว่าเป็นแชมป์ลีกสูงสุดเป็นครั้งแรกในรอบ 30 ปีของสโมสรเลยทีเดียว ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นเพราะระบบที่เจอร์เก้น คล็อปป์ ยอดกุนซือชาวเยอรมันใช้เวลาสร้างมันขึ้นมาประมาณ 4 ปีครึ่งแล้ว หลังจากที่เขาเข้ามาคุมทีม “หงส์แดง” เมื่อเดือนตุลาคมปี 2015 และหลังจากนั้นมาเขาก็ค่อยๆ ทำให้ลิเวอร์พูลดีขึ้นเรื่อย ๆ จนถึงตอนนี้
และอีกส่วนหนึ่งก็คือ นักเตะที่สามารถตอบสนองความต้องการ ของกุนซือชาวเยอรมันได้เป็นอย่างดี ซึ่งพวกเขามีกำลังหลักในแต่ละตำแหน่ง หรือแต่ละแดนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทำให้ ลิเวอร์พูลนั้นง่ายต่อการสร้างทีมหลังจากนี้เป็นอย่างยิ่ง หากว่าพวกเขาต้องการที่จะไร้เทียมทานในช่วงหลังจากนี้ เพราะในแนวรับของพวกเขาตอนนี้ก็มีเฟอร์กิล ฟาน ไดจค์ ปราการหลังทีมชาติฮอลแลนด์ที่ก้าวขึ้นไป เป็นกองหลังระดับโลก เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
เป็นตัวหลักของทีมในเวลานี้ ซึ่งไม่ว่าจะสลับเล่น กับเพื่อนร่วมทีมอย่างโจเอล มาติป โจ โกเมส หรือว่าเดยัน ลอฟเรนก็ตาม เกมรับของลิเวอร์พูลก็ยังคงแข็งแกร่งอยู่ดี แม้ว่าคู่หูจะทำพลาดไปบ้าง แต่ฟาน ไดจค์ก็สามารถโคเวอร์ความผิดพลาดนั้นได้ตลอด ซึ่งทำให้ลิเวอร์พูลเป็นทีมที่มีสถิติเสียประตูน้อยที่สุดในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ ส่วนในแดนกลางนั้นพวกเขาก็มีจอร์แดน เฮ็นเดอร์สัน กองกลางกัปตันทีมเป็นหัวใจในแดนกลาง
ซึ่งจะเห็นได้ว่าในยามที่ขาด “เฮ็นโด้” ไปนั้น ลิเวอร์พูล จะเริ่มมีปัญหาทันที ส่วนแดนหน้านั้นพวกเขามี 3 ประสานที่ลงตัวเรียบร้อยแล้ว และเล่นร่วมกันมาเป็นฤดูกาลที่ 3 แล้วอย่างโมฮาเหม็ด ซาล่าห์ โรเบร์โต้ ฟิร์มิโน่ และซาดิโอ มาเน่ ที่เล่นกันได้อย่างเข้าขารู้ใจทั้งเกมรุก รวมถึงการวิ่งเพรสซิ่งคู่แข่งด้วย ซึ่งถือว่าเป็นจุดเด่นของลิเวอร์พูลชุดนี้เลยทีเดียว
แต่ในความแข็งแกร่งของลิเวอร์พูลนั้นยังไม่ใช่ความสมบูรณ์แบบแต่อย่างใด เพราะจะเห็นได้ว่าพวกเขาสามารถทำให้ทีมนั้นแข็งแกร่ง และเฟอร์เฟ็กต์กว่านี้ได้อย่างแน่นอน หากว่าสโมสรยอมที่จะลงทุนเพิ่มอีกหน่อยหลังจบฤดูกาลนี้ ซึ่งหากเป็นทีมที่มีเจ้าของเป็นมหาเศรษฐีอยู่แล้วนั้น ทีมเหล่านั้นคงจะทำ และลงทุนอย่างแน่นอน เพื่อที่จะทำให้ทีมนั้นแข็งแกร่งที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ แต่กับลิเวอร์พูลนั้นยังต้องมาลุ้นกันว่าเจอร์เก้น คล็อปป์จะกล้าทุ่มทุนเพิ่มอีกหรือไม่ แม้ว่าทีมจะถือว่าประสบความสำเร็จแล้วในตอนนี้ก็ตาม เพราะว่ายังมีนักเตะบางตำแหน่งที่พวกเขายังสามารถหาที่ดีกว่านี้ได้ในตลาดนักเตะหลังจบฤดูกาลนี้
คู่หูของเฟอร์กิล ฟาน ไดจค์ในตำแหน่งปราการหลังตัวกลาง เป็นตำแหน่งที่ลิเวอร์พูลควรจะมองหาเป็นอย่างยิ่งหลังจบฤดูกาลนี้ เพราะถึงแม้ว่าคนที่จะมาเล่นคู่กับอดีตกองหลังค่าตัวแพงที่สุดในโลกนั้นจะเป็นใครก็ตาม ก็สามารถทำผลงานได้ดีทั้งหมดก็จริง แต่ก็มักจะสร้างความผิดพลาดอยู่เสมอ และเป็นตำแหน่งที่ลิเวอร์พูลยังสามารถอัพเกรดให้ดีกว่าเดิมได้ไม่ยาก โดยเฉพาะดาโย่ต์ อูปาเมกาโน่ ปราการหลังดาวรุ่งชาวฝรั่งเศสของไลป์ซิกในบุนเดสลีก้า ที่ถือว่าทำผลงานได้ดีมากในฤดูกาลนี้
โดยเป็นเหมือนมอนสเตอร์ในแนวรับตัวใหม่ของวงการฟุตบอลในตอนนี้ และเป็นที่หมายตาของหลายทีมดังในยุโรปด้วย และราคาค่าตัวก็คาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 50 ล้านปอนด์ ซึ่งก็ถือว่าไม่แรงมากนัก ส่วนอีกตำแหน่งหนึ่งที่ลิเวอร์พูลควรจะเสริมทัพหลังจบฤดูกาลนี้ก็คือนักเตะที่จะสามารถลงมาหมุนเวียนสลับกับ 3 กองหน้าตัวหลักของทีมได้ โดยจะต้องเป็นนักเตะที่สามารถเล่นได้ทั้ง 3 ตำแหน่งในแดนหน้า เพื่อที่จะมีความยืดหยุ่นในการหมุนเวียนนักเตะกันลงสนาม และคำตอบนั้นก็คือติโม แวร์เนอร์ กองหน้าทีมชาติเยอรมันของไลป์ซิกเช่นกัน ซึ่งกองหน้าวัย 24 ปีรายนี้สามารถเล่นได้ทั้งกองหน้าตัวเป้า และกองหน้ากึ่งปีก ทำให้ตรงปกเป็นอย่างมากกับการมาเป็นตัวหมุนในแดนหน้าให้กับลิเวอร์พูล และจะเป็นการอัพเกรดลิเวอร์พูลได้เป็นอย่างมาก เพราะแวร์เนอร์นั้นมีศักยภาพมากกว่าดิว็อค โอริกี้ กองหน้าชาวเบลเยี่ยมของทีมในตอนนี้อย่างแน่นอน ซึ่งแวร์เนอร์นั้นตกเป็นข่าวกับลิเวอร์พูลอย่างหนักอยู่แล้วในตอนนี้
