หนทางของลูก้า โยวิช!

 

ลูก้า โยวิช กองหน้าฟอร์มแรงชาวเซอร์เบียจากไอน์ทรัชค์ แฟรงค์เฟิร์ต
ลูก้า โยวิช กองหน้าฟอร์มแรงชาวเซอร์เบียจากไอน์ทรัชค์ แฟรงค์เฟิร์ต

 

 

            ในช่วงก่อนเปิดฤดูกาลนี้ สโมสรเรอัล มาดริด ยักษ์ใหญ่ของประเทศสเปนที่พลาดถ้วยแชมป์ทุกรายการเมื่อฤดูกาลที่แล้ว และทำให้ต้องมือเปล่าไป ทำให้พวกเขาตั้งเป้าหมายว่าจะต้องกลับมาครองความยิ่งใหญ่ให้ได้อีกครั้ง หลังจากที่ฟลอเรนติโน่ เปเรซ ประธานสโมสรไปตัดสินใจผิดพลาด เมื่อขายคริสเตียโน่ โรนัลโด้ ยอดดาวยิงสูงสุดของสโมสรออกไปให้กับยูเวนตุสในช่วงกลางปี 2018 ทำให้ซีเนอดีน ซีดาน ที่ไม่เห็นด้วยกับการตัดสินใจดังกล่าวประกาศอำลาจากตำแหน่งกุนซือทีม “ราชันย์ชุดขาว” ทำให้พวกเขาต้องไปดึงฆูเลน โลเปเตกี อดีตนักเตะของสโมสรที่ตอนนั้นรับหน้าที่คุมทีมชาติสเปนที่กำลังจะทำศึกฟุตบอลโลกที่รัสเซียเข้ามาคุมทีมแทน ซึ่งทำให้แคมป์ทีมชาตินั้นสั่นสะเทือนทันที หลังจากการประกาศการแต่งตั้งดังกล่าวที่ยังไม่ได้รับความเห็นชอบ และบอกกล่าวกับสมาพันธ์ฟุตบอลสเปนก่อน ทำให้โลเปเตกีโดนปลดจากทีมชาติทันที ก่อนที่ฟุตบอลโลกจะเริ่มต้นขึ้นไม่กี่วันเท่านั้น และเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ทีมชาติจากแดนกระทิงดุไปได้แค่เพียงรอบ 16 ทีมสุดท้ายเท่านั้น ซึ่งหลังจากที่พวกเขาขายคริสเตียโน่ โรนัลโด้ออกจากทีมไป เรอัล มาดริดก็ประสบปัญหาในแนวรุกทั้งฤดูกาลที่แล้ว และต่อมาจนถึงฤดูกาลนี้ด้วย แม้ว่ากุนซือของทีมจะกลับมาเป็นซีเนอดีน ซีดานอีกครั้งก็ตาม แต่ปัญหาในแดนหน้าของทีมก็ยังไม่หมดไปในช่วงปลายฤดูกาลที่แล้ว ทำให้ในช่วงปิดฤดูกาล เรอัล มาดริดมีการเสริมทัพครั้งใหญ่อีกครั้ง โดยคราวนี้ฟลอเรนติโน่ เปเรซ ลงทุนไปถึง 300 ล้านยูโร เพื่อแก้ไขข้อผิดพลาดที่ตัวเองก่อไว้ในการตัดสินใจปล่อยโรนัลโด้ออกจากทีม ซึ่งพวกเขาได้คว้าตัวเอแดน อาซาร์ เพลย์เมคเกอร์ทีมชาติเบลเยี่ยมมาจากแชลซีในราคา 100 ล้านปอนด์ ซึ่งพวกเขาหวังว่าจะเข้ามาเป็นตัวรุกริมเส้นทางฝั่งซ้ายให้กับทีม อีกทั้งยังมีโรดริโก้ ดาวรุ่งชาวบราซิเลี่ยนที่ว่ากันว่าเป็นวันเดอร์ คิด หรือว่าเด็กดาวโรจน์ในอนาคต และสุดท้ายคือลูก้า โยวิช กองหน้าฟอร์มแรงชาวเซอร์เบียจากไอน์ทรัชค์ แฟรงค์เฟิร์ต ทีมในประเทศเยอรมันมาร่วมทีมด้วยค่าตัวถึง 60 ล้านยูโร ซึ่งถือว่าแพงทีเดียวกับฝีเท้า และชื่อชั้นของดาวรุ่งวัย 22 ปีที่พึ่งจะเริ่มสร้างชื่อมาได้ไม่นานเท่านั้น แต่เรอัล มาดริดก็ไม่มีทางเลือกมากนัก เพราะพวกเขากำลังต้องการกองหน้าตัวเป้าอย่างหนัก เพื่อหวังที่จะมาทดแทนคาริม เบนเซม่า กองหน้าชาวฝรั่งเศสที่เริ่มแก่ตัวลงทุกวัน รวมถึงฟอร์มการเล่นก็ไม่สามารถพึ่งพาได้ทั้งฤดูกาล ทำให้พวกเขาต้องการนักเตะที่จะสามารถช่วยทีมทำประตูได้อย่างสม่ำเสมอเข้ามา ซึ่งลูก้า โยวิช ถือว่าตอบโจทย์ในระดับหนึ่ง เพราะฤดูกาลก่อนนั้นเขาทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในศึกบุนเดสลีก้า นับตั้งแต่ที่เขาย้ายแบบยืมตัวจากเบนฟิก้ามาในช่วงปี 2017 และด้วยผลงานที่สุดยอดตอนยืมตัว ก็ทำให้แฟรงค์เฟิร์ตตัดสินใจคว้าตัวมาร่วมทีมแบบถาวรทันที

            แต่นับตั้งแต่ที่เขาย้ายเข้ามาสู่ดินแดนเมืองหลวงของประเทศสเปน ลูก้า โยวิช ก็ยังไม่สามารถโชว์ฝีเท้าเหมือนอย่างที่เขาเคยทำได้ในศึกบุนเดสลีก้าได้เลย โดยเขาต้องตกเป็นตัวสำรองของคาริม เบนเซม่าอยู่เป็นประจำ ซึ่งส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะเบนเซม่านั้นเป็นนักเตะคนโปรดของซีเนอดีน ซีดาน กุนซือของทีมด้วย และบวกกับระบบของทีมที่ใช้กองหน้าตัวเป้าเพียงคนเดียวเท่านั้น ทำให้ลูก้า โยวิช ต้องตกเป็นตัวสำรองไปโดยปริยาย แต่ในช่วงที่ผ่านมาเขาก็ถือว่าได้โอกาสในการลงสนามในฐานะตัวสำรองอยู่เป็นประจำ แต่ก็ยังไม่สามารถทำผลงานช่วยทีมแบบเป็นชิ้นเป็นอันได้เลย และปัญหาในแนวรุกของเรอัล มาดริดก็ยังไม่สามารถแก้ไขได้ เพราะเอแดน อาซาร์ที่ซื้อมาก็ดันมาบาดเจ็บตลอดในช่วงฤดูกาลที่ผ่านมา และแทบไม่ได้มีส่วนร่วมกับทีมในฤดูกาลนี้เลยด้วยซ้ำ อีกทั้งคาริม เบนเซม่า กองหน้าของทีมก็ยังคงไม่สามารถปลดล็อคการทำประตูที่มากขึ้นจากเดิมได้ และดูเหมือนจะเป็นขีดจำกัดของเขาในการทำประตูช่วยทีม ไม่ว่าช่วงต้นฤดูกาลจะทำผลงานได้ดีแค่ไหนก็ตาม แต่พอไปถึงจุดหนึ่งแล้วก็มักจะหายจากรายชื่อการทำประตูไปแบบดื้อๆ

            เงิน 60 ล้านยูโรที่จ่ายเป็นค่าตัวของลูก้า โยวิช ตอนนี้มีแววจะขาดทุนอย่างย่อยยับเลยทีเดียว หากว่าหลังจากนี้เขาไม่สามารถฉายแววกลับมาช่วยทีมได้ ซึ่งอาจจะทำให้สโมสรตัดสินใจขายเขาออกจากทีม หรืออาจจะปล่อยให้กับทีมอื่นยืมตัวหลังจบฤดูกาลนี้ ซึ่งจะทำให้มูลค่า และค่าตัวของเขาลดลงอย่างแน่นอน แต่มันอาจจะเป็นผลดีกับลูก้า โยวิชเอง ที่เขาอาจจะได้ไปพิสูจน์ตัวเองอีกครั้งกับทีมอื่น หรือว่าสโมสรอื่น ที่อาจจะเหมือนกว่าในถิ่นซานติอาโก้ เบร์นาเบว ที่เหมือนเป็นการข้ามระดับชั้นของเขาขึ้นมาเร็วไป ซึ่งเขายังไม่พร้อมที่จะเล่นให้กับเรอัล มาดริดในเวลานี้ แต่หากว่าลูก้า โวยิช มีเวลาปรับตัวอีกซัก 1 ฤดูกาล เขาอาจจะสามารถเปล่งประกายเหมือนกับตอนที่ค้าแข้งให้กับไอน์ทรัชต์ แฟรงค์เฟิร์ตในบุนเดสลีก้าก็เป็นได้