หมดเวลา! ฟอร์มสุดบู่กับนอริชจะเป็นโอกาสสุดท้ายของ ลินการ์ด หรือไม่

   “เจสซี่ ลินการ์ด” กลายเป็นชื่อทีมแฟนผีแดงเห็นแล้วไม่สบอารมณ์สักเท่าไหร่นักโดยเฉพาะในเรื่องฟอร์มการเล่นในสนามที่เจ้าตัวทำผลงานน่าผิดหวังตลอดฤดูกาลทั้งที่ตอนนี้เขาก้าวสู่อายุ 27 ปีแล้วซึ่งมันควรจะเป็นช่วงที่ฟอร์มพีคของการเป็นนักฟุตบอลอาชีพ และเกมล่าสุดกับ นอริช ซิตี้ ในศึกเอฟเอ คัพ เขามีโอกาสได้พิสูจน์ตัวเองด้วยการลงเล่นเป็นตัวจริงแต่ก็ล้มเหลวอีกครั้ง นี่จะเป็นโอกาสสุดท้ายของ ลินการ์ด กับ แมนฯยูไนเต็ด หรือไม่?

    ก่อนเกมกับ นอริช ซิตี้ โซลชากล่าวถึง เจสซี่ ลินการ์ดว่า “เขากลับมาจากการล็อกดาวน์ด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มและพลังงานที่เต็มเปี่ยม เขาป่วยเมื่ออาทิตย์ที่แล้วแต่พวกเราทำการตรวจสอบแล้ว เขาไม่เป็นไร และจะมีส่วนร่วมกับเกมนอริช ซิตี้”

เจสซี่ ลินการ์ด
เจสซี่ ลินการ์ด

“หวังว่าเขาเข้าฟอร์มอีกครั้ง เขายิงประตูสำคัญให้พวกเรา และยังคงเป็นนักเตะคนสำคัญของพวกเรา เราต้องมารอดูกันต่อไปว่าในอนาคตจะเป็นอย่างไร แต่ในตอนนี้เขามีความฟิตและโฟกัสกับเกมมากขึ้น”

 

  นั่นแสดงให้เห็นว่า โซลชา ยังคงเชื่อมั่นในตัวของลินการ์ดอยู่แม้ว่าเขาจะให้โอกาสมากมายนับครั้งไม่ถ้วนในครึ่งซีซั่นแรกที่ผ่านมา ทว่าเมื่อจบเกมกับ นอริช ซิตี้ เป็นอีกครั้งที่เขาทำให้กุนซือผิดหวัง เขาไม่สามารถช่วยแนวรุกได้เลยโดยเฉพาในครึ่งแรกที่ทีมยิงไม่ตรงกรอบเลยสักครั้ง ถ้ายังมองในแง่ดีการที่ โซลชา จับไปเล่นทางริมเส้นฝั่งซ้าย อาจทำให้เขาเล่นไม่ออกเพราะไม่ใช่ตำแหน่งถนัดของเขา ประกอบกับความฟิตที่ยังไม่เต็มร้อยเนื่องจากออกสตาร์ทตัวจริงเป็นเกมแรกนับตั้งแต่กลับมารีสตาร์ท

    อย่างไรก็ตามน่าสนใจว่าหลังจากนี้เจ้าตัวจะยังมีโอกาสลงสนามอีกครั้งไหมในช่วงที่เหลือของฤดูกาลเนื่องจาก บรูโน่ แฟร์นันด์ส ยังคงรับสัมปทานในตำแหน่งกองกลางตัวรุกซึ่งแน่นอนว่าหากไม่เจ็บไข้ได้ป่วย อดีตแข้งลิสบอนจะยึดตัวจริงทุกนัดที่เหลือในพรีเมียร์ลีกอย่างแน่นอน

 

    ส่วนในฟุตบอลถ้วยเอฟเอ คัพนั้นปกติแล้วจะเป็นโอกาสของพวกตัวสำรองอย่างเช่น ลินการ์ด แต่ทว่าในเมื่อเข้าสู่รอบรองชนะเลิศแล้วและรายการนี้ก็เป็นถ้วยที่ โซลชา ต้องคว้ามาเพื่อเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีของยุคกุนซือรายนี้ การเจอกับ เชลซี ไม่ใช่งานง่าย ดังนั้นมีโอกาสสูงที่กุนซือจะจัดทีมชุดใหญ่ลงเล่น

 

 

เจสซี่ ลินการ์ด
เจสซี่ ลินการ์ด

 

 

    การมีโปรแกรมแข่งขันถี่แบบนี้ อาจจะยังเป็นข้อดีให้เขาได้ลงมาสัมผัสสนามในฐานะตัวสำรองอยู่บ้าง แต่ยังนึกไม่ออกอยู่เหมือนกันว่าเขาจะได้ลงสนามแบบเต็มเกมอีกครั้งในนัดไหนเพราะตอนนี้ไม่ว่าเส้นทางลีกหรือฟุตบอลถ้วยก็สำคัญไม่แพ้กัน ดังนั้นเกมกับนอริช ซิตี้จึงอาจเป็นโอกาสสุดท้ายของเจ้าตัวได้พิสูจน์ตัวเองแล้วก็ว่าได้ เพราะสัญญาของเขากำลังจะหมดลงในซัมเมอร์ปีหน้าแล้วและมีข่าวว่าอาจเก็บข้าวของย้ายทีมหลังจบฤดูกาล ซึ่งหากทีมไม่ต้องการเสียผู้เล่นไปแบบฟรีๆคงต้องปล่อยตัวออกในตลาดซัมเมอร์นี้

    ลินการ์ด ไม่สามารถทำประตูหรือแอสซิสต์ในพรีเมียร์ลีกมาตั้งแต่เกมบ็อกซิ่งเดย์ปี 2018 และไม่ได้ออกสตาร์ทตัวจริงในลีกนับตั้งแต่เกมพ่าย อาร์เซน่อล 2-0 ในวันขึ้นปีใหม่ 2020 ในขณะที่ฟอร์มของ แมนฯ ยูไนเต็ด กระเตื้องขึ้นมามาก (ไม่แพ้ใคร 13 นัดติดต่อกันก่อนเยือนนอริช) มันให้ความรู้สึกว่าลินการ์ดถูกเพื่อนทิ้งไว้ให้อยู่ที่เดิม

    ในทีมยุคใหม่ที่ประกอบไปด้วยผู้เล่นอย่าง บรูโน่ แฟนันด์ส, ปอล ป็อกบา, มาร์คัส แรชฟอร์ด, อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล, แดเนี่ยล เจมส์ และเมสัน กรีนวู้ด ยังไม่รวมถึงนักเตะหลายๆคนที่จะตามมาในตลาดนักเตะหลังจบฤดูกาลซึ่งอาจจะเป็น เจดอน ซานโช่ หรือแจ็ค กรีลิช นั่นทำให้โอกาสของ ลินการ์ด ไม่ว่าจะลงตำแหน่งไหนในแนวรุกก็เหลือน้อยเต็มทนแล้ว

 

 

เจสซี่ ลินการ์ด
เจสซี่ ลินการ์ด

 

  ข่าวจาก ดิ อินเดเพนเดนท์ สื่อชั้นนำของอังกฤษ รายงานว่า ดาวเตะผีแดงรายนี้ กำลังให้ความสนใจที่จะไปค้าแข้งในอิตาลี และได้ทำการปรึกษากับทั้งคริส สมอลลิ่ง และแอชลีย์ ยัง แล้วด้วย ประกอบกับการที่เขาเข้าไปอยู่ในสังกัดของ มิโน่ ไรโอล่า เอเจ้นท์คนดังซึ่งมีคอนเนคชั่นในแวดวงฟุตบอลเซเรีย อามากมาย มีโอกาสสูงทีเดียวที่เขาจะช่วยเสนอขายลินการ์ดให้กับทีมในเซเรีย อา

    ด้าน ดไวท์ ยอร์ค ตำนานกองหน้าปีศาจแดงให้ความเห็นเกี่ยวกับอนาคตของ ลินการ์ด ว่า “พวกเรามีความคาดหวังสูงในตัวเขา และเขาก้าวขึ้นมาในทีมชุดใหญ่ได้สำเร็จซึ่งเป็นสิ่งที่น่าพอใจ เขารู้เรื่องเกี่ยวกับสโมสรดี เขารักสโมสร แต่ในวัย 27 ปีคุณควรจะมีฟอร์มที่สม่ำเสมอ ถ้าสิ่งนี้ไม่เกิดขึ้น บางทีเขาอาจต้องมองหาที่อื่นแล้ว”

    นัดที่เหลือในฤดูกาลนี้ยากเหลือเกินที่ ลินการ์ด จะมีโอกาสพิสูจน์ตัวเองและชนะใจแฟน “ปีศาจแดง” อีกครั้ง ส่วนสโมสรยังคงไม่มีท่าทีที่จะต่อสัญญาเจ้าตัวแต่อย่างใด สิ่งนี้เป็นสัญญาณที่บอกว่าเขากำลังจะหมดเวลาในรั้วโอลด์ แทรฟฟอร์ด แล้ว