ผลกระทบของโควิด 19 กับการเงินของสโมสร!

             ผลกระทบของโรคระบาดไวรัสโคโรน่า หรือว่าโควิด 19 นั้นไม่ได้ส่งผลกระทบกับวงการกีฬาโลกเพียงแค่ทำให้ต้องเลื่อนการแข่งขันกีฬาทุกประเภทออกไปก่อนเท่านั้น แต่มันยังส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวงกับระบบเศรษฐกิจของทีมกีฬาต่างๆ เช่นกัน เพราะการที่ไม่สามารถมีการแข่งขันได้ตามปกติ ก็ทำให้สโมสรต่างๆ ขาดรายนี้มหาศาลแล้วในเรื่องของการจำหน่ายตั๋วเข้าชมเกม หรือการขายของที่ระลึกเป็นต้น ที่เป็นผลกระทบเบื้องต้นของสโมสรฟุตบอลที่แต่ละนัดนั้นจะมีผู้ชมเข้ามาชมเกมเต็มสนามอยู่ตลอด แต่นอกนั้นก็ยังมีเรื่องของสปอนเซอร์ และค่าลิขสิทธิ์ในการถ่ายทอดสดเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องใหญ่มากทีเดียว เพราะมันเป็นเงินก้อนมหาศาลที่จะขาดหายไปหากไม่สามารถกลับมาแข่งขันกันได้ และมันเป็นเงินที่หลายลีกจ่ายให้กับสโมสรไปเรียบร้อยแล้วด้วย ทำให้พวกเขาจะเสียหายมหาศาลอย่างแน่นอนหากว่าไม่สามารถกลับมาแข่งขันให้จบตามปกติได้ อย่างในพรีเมียร์ลีกนั้นเหล่าสโมสรต่างๆ อาจจะต้องคืนเงินให้กับทางพรีเมียร์ลีกถึงเกือบ 800 ล้านปอนด์เลยทีเดียว หากว่าแข่งขันกันไม่จบฤดูกาลนี้ ซึ่งหากเฉลี่ยกันแล้วตกต้องจ่ายคืนให้พรีเมียร์ลีกกันทีมละประมาณ 40 ล้านปอนด์ ซึ่งถือว่าเยอะมาก และเงินส่วนนี้สโมสรต่างๆ ก็คงจะนำไปใช้หมุนเวียนกันหมดแล้วด้วยซ้ำ ซึ่งจะถือว่าส่งผลกระทบมากทีเดียวกับการเงินของสโมสรต่างๆ ที่ขาดรายได้อย่างมหาศาลในช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา และพวกเขาอาจจะต้องขาดสภาพคล่องไปอีก 1-2 เดือนหลังจากนี้ด้วย เนื่องจากแต่ละลีกกว่าจะกลับมาเตะกันใหม่ได้อีกครั้งคงจะต้องให้สถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด 19 เบาบางลงกว่านี้ หรือว่าให้หายจากการระบาดไปเรียบร้อยแล้ว ซึ่งน่าจกินเวลาประมาณ 2 เดือนเป็นอย่างน้อย ซึ่งในตอนนี้แต่ละประเทศในยุโรปก็อยู่ในช่วงที่มีผู้ป่วยเพิ่มสูงขึ้นทุกวัน ทำให้โอกาสที่ลีกต่างๆ จะกลับมาเตะกันใหม่ได้ตามกำหนดแรกนั้นเป็นไปได้ยากมาก

 

 

            ในช่วงที่ผ่านมาแต่ละสโมสรก็ออกมาประกาศว่าพวกเขาจะยังทำการจ่ายเงินให้กับบรรดาทีมงานของสโมสรในส่วนต่างๆ ที่เป็นพวกลูกจ้างชั่วคราว หรือว่าลูกจ้างรายวันที่อาจจะไม่มีงานจากการหยุดการแข่งขันไปอยู่ ซึ่งแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ลิเวอร์พูล และอาร์เซน่อลก็ออกมาประกาศว่าพวกเขาจะยังจ่ายเงินในส่วนนี้ให้กับพนักงานฝ่ายต่างๆ ตามปกติ ซึ่งถึงแม้ว่ามันจะเป็นเงินที่ไม่ได้มากนัก แต่มันก็เป็นค่าใช้จ่ายของสโมสรที่ผุดขึ้นมาอยู่ดี แต่สิ่งที่สโมสรฟุตบอลต่างๆ ต้องกังวลมากที่สุดก็คือบรราค่าใช้จ่ายที่จะเป็นค่าเหนื่อยของนักเตะในทีมมากกว่า ที่แต่ละสโมสรจะมีค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ไม่เท่ากัน แต่มันเป็นรายจ่ายที่มากที่สุดของแต่ละสโมสรอย่างแน่นอน ซึ่งอาจจะแตกต่างกันไปตามขนาดของแต่ละทีม ซึ่งในส่วนนี้มีบางสโมสรที่ได้เจรจากับบรรดานักเตะในทีมแล้วว่าพวกเขาตกลงจะยอมลดค่าเหนื่อยลงจากปกติ โดยบาเยิร์น มิวนิค ยักษ์ใหญ่ของบุนเดสลีก้าเยอรมันได้ข้อตกลงกันไปเรียบร้อยแล้วว่าพวกเขาจะลดค่าเหนื่อยให้กับนักเตะลง 20 เปอร์เซ็นต์ และนำเงินส่วนนี้ไปทำในเรื่องของการกุศลแทน ซึ่งตัวนักเตะก็ได้ตอบรับนโยบายนี้ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งยังมีอีกหลายสโมสรที่กำลังวางแผนที่จะเจรจากับนักเตะ ซึ่งมีการคาดการณ์กันว่าบางทีมอาจจะต้องขอลดค่าเหนื่อยของนักเตะรายต่างๆ ลงถึง 50 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว เพราะมิเช่นนั้นสโมสรจะแบกรับภาระค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ไม่ไหวแน่ๆ

 

ในช่วงที่ผ่านมาแต่ละสโมสรก็ออกมาประกาศว่าพวกเขาจะยังทำการจ่ายเงินให้กับบรรดาทีมงานของสโมสรในส่วนต่างๆ ที่เป็นพวกลูกจ้างชั่วคราว หรือว่าลูกจ้างรายวันที่อาจจะไม่มีงานจากการหยุดการแข่งขัน
ในช่วงที่ผ่านมาแต่ละสโมสรก็ออกมาประกาศว่าพวกเขาจะยังทำการจ่ายเงินให้กับบรรดาทีมงานของสโมสรในส่วนต่างๆ ที่เป็นพวกลูกจ้างชั่วคราว หรือว่าลูกจ้างรายวันที่อาจจะไม่มีงานจากการหยุดการแข่งขัน

 

 

            ในศึกลา ลีก้าสเปนนั้นกำลังมีการวางแผนที่จะพูดคุยกับกลุ่มนักเตะของลา ลีก้า ว่าพวกเขาอาจจะขอลดค่าเหนื่อยกันลงถึง 70 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว ซึ่งลา ลีก้านั้นอาจจะเป็นลีกที่หาข้อตกลงได้ยากอย่างแน่นอน เพราะพวกเขาอาจจะขอลดในเปอร์เซ็นต์ที่สูงมาก และกลุ่มนักเตะของลา ลีก้านั้นถือว่าเป็นกลุ่มที่แข็งมากในเรื่องของการรวมตัวกันต่อต้าน หากว่ายังจำกันได้ในเรื่องของการที่พวกเขาออกมาคัดค้านในการที่ลีกจะพยายามโยกศึกลา ลีก้าสเปนไปแข่งขันกันที่ประเทศสหรัฐอเมริกา จนสุดท้ายลา ลีก้าก็ต้องยอมถอยในเรื่องนี้

 

 

            ไม่ใช่ในเรื่องของค่าเหนื่อยนักเตะเท่านั้น ที่เหล่าสโมสรต่างๆ จะได้รับผลกระทบจากไวรัสโควิด 19 นี้ แต่ยังลามไปถึงตลาดซื้อขายนักเตะด้วย ซึ่งกว่าการแข่งขันฟุตบอลจะกลับมาแข่งกันได้อีกครั้งก็น่าจะเป็นช่วงที่ตลาดซื้อขายนักเตะหน้าร้อนประจำฤดูกาลก็น่าจะเริ่มต้นกันไปแล้ว ซึ่งจะทำให้แต่ละสโมสรมีเวลาในการเจรจากันน้อยลง อีกทั้งการที่สโมสรต่างๆ ขาดรายได้ที่ควรจะได้ไป ทำให้ตลาดซื้อขายนักเตะในรอบนี้อาจจะซบเซามากที่สุดครั้งหนึ่งเลยก็เป็นได้ และด้วยผลกระทบด้านการเงินของแต่ละทีมแบบนี้ ทำให้ราคาค่าตัวการซื้อขายนักเตะที่มีผลกระทบมาจากเนย์มาร์ เอฟเฟ็กต์ ในตอนที่ย้ายจากบาร์เซโลน่าไปอยู่กับปารีส แซงต์ แชร์กแมง และทำให้นักเตะคนอื่นนั้นแพงตามๆ กันไปด้วย อาจจะเป็นเวลาอันดีที่จะดึงราคานักเตะที่จะย้ายกันหลังจากนี้ลงมาให้อยู่ในเรตที่ไม่แพงเกินไปได้อีกครั้ง