3 กุนซือผู้ปราบ เป็ป ทั้งเหย้า-เยือน
เป็ป กวาดิโอล่า กุนซือชาวสเปนของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในเวลานี้ ขึ้นชื่อว่าเป็นยอดโค๊ชมากว่าทศวรรษแล้ว หลังจากที่เขาเข้ามาคุมทีมบาร์เซโลน่าเมื่อปี 2008 และหลังจากนั้นมาเขาก็ประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว และก้าวขึ้นมาเป็นยอดกุนซือได้นานเป็น 10 ปีแล้ว และตลอดเวลาที่ผ่านมาเขาคุมทีมมาแล้ว 3 ลีกใหญ่ของยุโรป ไม่ว่าจะเป็นลา ลีก้าสเปนกับบาร์เซโลน่า บุนเดสลีก้ากับบาเยิร์น มิวนิค และแมนเชสเตอร์ ซิตี้ในปี 2016 และยังคงคุมทีมอยู่จนถึงปัจจุบันนี้ ซึ่งตลอด 10 กว่าปีที่ผ่านมา เป็ป กวาดิโอล่า คุมทีมในลีกมากว่า 500 นัดแล้ว แต่มีกุนซือเพียง 3 คนเท่านั้นที่สามารถปราบกุนซือวัย 49 ปีรายนี้ได้แบบทั้งเหย้า และเยือนภายในฤดูกาลเดียวของลีก และมันมาเกิดขึ้นในการแข่งขันพรีเมียร์ลีกทั้ง 3 ครั้ง และเป็นฤดูกาลนี้ถึง 2 คนเลยทีเดียวที่สามารถเอาชนะยอดกุนซือรายนี้ได้
กุนซือคนแรกที่สามารถปราบอดีตกองกลางบาร์เซโลน่ารายนี้ได้อย่างหมดจดก็คืออันโตนิโอ คอนเต้ กุนซือชาวอิตาเลี่ยน ที่เข้ามาคุมทีมเชลซีในปี 2016 พร้อมกันกับ เป็ป กวาดิโอล่า ที่เข้ามาคุมทีม “เรือใบสีฟ้า” ในปีเดียวกัน โดยนัดแรกที่อิติฮัด สเตเดี้ยม ทีม “สิงโตน้ำเงินคราม” บุกไปเชือดแมนเชสเตอร์ ซิตี้ได้ถึงถิ่น 3-1 ทั้งที่โดนนำไปก่อนในครึ่งแรก แต่ครึ่งหลังมาได้ 3 ประตูรวดจากดิเอโก้ คอสต้า วิลเลี่ยน และเอแดน อาซาร์ ส่วนนัดที่ 2 นั้นก็เป็นอาซาร์ที่ทำ 2 ประตูให้เชลซีเฉือนเอาชนะทีมของเป็ป กวาดิโอล่าไปได้อีก 2-1 และสุดท้ายเชลซีของคอนเต้ก็เข้าป้ายเป็นแชมป์พรีเมียร์ลีกด้วยคะแนนถึง 93 คะแนน ส่วนแมนเชสเตอร์ ซิตี้เก็บได้เพียง 78 คะแนนเท่านั้นในฤดูกาลนั้น
กุนซือคนต่อมาที่สามารถโค่น เป็ป กวาดิโอล่า ได้สำเร็จในฤดูกาลเดียวกันก็คือ นูโน่ เอสปิริโต้ ซานโต้ กุนซือชาวโปรตุกีสของ วูล์ฟส์แฮมป์ตัน วันเดอร์เรอร์ส นั่นเอง ซึ่งมาเกิดขึ้นในฤดูกาลนี้ โดยทีม “หมาป่า” บุกเอาชนะแมนเชสเตอร์ ซิตี้ได้ก่อน 2-0 ที่อิติฮัด จาก 2 ประตูในช่วงท้ายเกมของอดาม่า ตราโอเล่ อดีตเด็กเยาวชนจากศูนย์ฝึกลา มาเซียในบาร์เซโลน่านั่นเอง และนัดที่กลับมาเล่นในโมลินิวซ์ กราวน์ รังเหย้าของวูล์ฟส์แฮมป์ตันในช่วงปลายปี 2019 ทีมเจ้าถิ่นก็สามารถย้ำแค้นผู้มาเยือนได้อีกครั้ง
ซึ่งถือว่าเป็นเกมที่ดราม่า และสนุกเกมหนึ่งเลยทีเดียว เพราะเอแดร์ซอน นายประตูของซิตี้โดนไล่ออกตั้งแต่นาทีที่ 12 แต่แมนเชสเตอร์ ซิตี้ก็มาได้จุดโทษนาที 35 แต่ราฮีม สเตอร์ลิ่งก็ยิงไม่เข้า แต่ก็มาตามซ้ำได้สำเร็จ และต้นครึ่งหลังสเตอร์ลิ่งก็มายิงอีกประตูให้ทีมนำ 2-0 และคาดว่าน่าจะเป็นเกมง่ายของทีม “เรือใบสีฟ้า” แล้วในตอนนั้น แต่ตัวแสบของวูล์ฟส์แฮมป์ตันก็คืออ ดาม่า ตราโอเล่ก็มาจุดประกายตีไข่แตกให้ทีมอย่างรวดเร็ว และท้ายเกมเจ้าถิ่นก็มาได้ 2 ประตูจากราอูล ฮิมิเนส กองหน้าตัวเก่ง และแม็ตต์ โดเฮอร์ตี้ แบ็คขวาของทีม ทำให้พวกเขาพลิกกลับมาเอาชนะได้สำเร็จ 3-2 และกลายเป็นกุนซือคนที่ 2 ที่เอาชนะเป็ป กวาดิโอล่าได้แบบเหย้าเยือน
คนล่าสุดที่สามารถเอาชนะ เป็ป กวาดิโอล่า ได้ทั้งไป และกลับก็คือ โอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ กุนซือชาวนอร์เวย์ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด นั่นเอง ซึ่งกุนซือรายนี้มักทำได้ดีในยามที่คุมทีม “ปีศาจแดง” พบกับทีมยักษ์ใหญ่ของลีก โดยเขาพาแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดบุกเอาชนะซิตี้ได้ก่อน 2-1 ในช่วงต้นเดือนธันวาคมปีที่แล้ว โดยได้ 2 ประตูในครึ่งแรกจากจุดโทษของมาร์คัส แรชฟอร์ด และอ็องโตนี่ มาร์กซิยาล
ส่วนซิตี้มาตีไข่แตกได้ในนาที 85 จากนิโคลัส โอตาเมนดี้จากลูกเตะมุม แต่ก็ไล่ไม่ทัน และแพ้ไป 1-2 ซึ่งแทคติกที่โซลชาร์วางหมากมาในเกมนั้นได้รับคำชมเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในครึ่งแรกที่เขาทำให้ทีมของ เป็ป กวาดิโอล่า ไปไม่เป็นเลยทีเดียว และพวกเขาได้โอกาสยิงตลอด และควรนำมากกว่านั้นด้วยซ้ำในครึ่งแรก และนัดต่อมาที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด ในช่วงต้นเดือนมีนาคม
ซึ่งเป็นนัดสุดท้ายก่อนที่จะหยุดพักเบรกหนีไวรัสไปด้วย ที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเอาชนะไปได้อีก 2-0 เมื่อเล่นลูกฟรีคิกลูกซ้อมที่บรูโน่ แฟร์นันเดส ยกบอลมาให้อ็องโตนี่ มาร์กซิยาลยิงเข้าเสาแรกไป และท้ายเกมก็มาได้ลูกยิงเกือบครึ่งสนามของสก็อตต์ แม็คโทมิเนย์ ซึ่งทั้ง 2 ประตูเกิดจากความผิดพลาดของเอแดร์ซอน นายประตูชาวบราซิเลี่ยนของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ทั้งสิ้น ทำให้ โอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ กลายเป็นกุนซือคนที่ 3 ที่สามารถเอาชนะ เป็ป กวาดิโอล่า ได้ทั้งไป และกลับในลีก
ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องหายากทีเดียว แต่ว่าหากฤดูกาลนี้กลับมาเล่นกันอีกครั้งก็ยังมีกุนซืออีกคนที่ลุ้นทำสถิตินี้ได้ก็คือเจอร์เก้น คล็อปป์ ยอดกุนซือของลิเวอร์พูลนั่นเอง ที่เขาเอาชนะแมนฯ ซิตี้มาได้แล้วในนัดแรก เหลือเกมเยือนอีกนัดเท่านั้นที่จะพบกัน ซึ่งหากว่าที่แชมป์พรีเมียร์ลีกยังเน้น และเล่นเต็มที่กันอยู่ ก็มีโอกาสทีเดียวที่คล็อปป์จะกลายเป็นกุนซือคนที่ 4 ที่เอาชนะเป็ป กวาดิโอล่าได้ทั้งไปและกลับในพรีเมียร์ลีก