ขุมกำลัง “ม้าลาย” ที่กำลังเปลี่ยนแปลง!
ทีม “ม้าลาย” ยูเวนตุส ยอดทีมของศึกกัลโช่ เซเรีย อานั้นถือว่าเป็นทีมที่แข็งแกร่งมากในอิตาลี เมื่อพวกเขาครองแชมป์สคูเด็ตโต้มาอย่างยาวนานถึง 8 สมัย ซึ่งยาวนานที่สุดในบรรดา 5 ลีกใหญ่ของยุโรปตอนนี้แล้ว
ซึ่งเป็นเพราะว่าทีมพวกเขามีการบริหารงานที่ดีที่นำโดยตระกูลอันเญลี่ที่เป็นเจ้าของสโมสร และมีธุรกิจอยู่มากมาย ทำให้ยูเวนตุสกลายเป็นทีมที่มีทุนหนา และมั่นคงที่สุดในอิตาลี ทำให้ช่วงที่ทีมยักษ์ใหญ่อื่นๆ ในประเทศประสบปัญหาด้านเงินทุนอย่างเอซี มิลาน หรืออินเตอร์ มิลานก็ตาม แต่ยูเวนตุสก็ยังสามารถไปต่อได้อย่างสบาย
อีกทั้งพวกเขายังมีผู้อำนวยการฟุตบอลที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นระดับต้นๆ ของวงการอย่างฟาบิโอ ปาราตริชี่ ผู้อำนวยการฟุตบอลชื่อดังที่เป็นคนค้นพบนักเตะเก่งๆ ของยูเวนตุสมากมาย และทำให้ทีม “ม้าลาย” สะสมยอดนักเตะไว้หลายคนตั้งแต่ยังเด็ก จนกลายมาเป็นยอดนักเตะของโลกในเวลานี้
ซึ่งทำให้ขุมกำลังของยูเวนตุสนั้นแข็งแกร่งมาโดยตลอด ไม่ว่าจะมีการเปลี่ยนกุนซือมาแล้วถึง 2 ครั้งก็ตาม จากยุคแรกที่พวกเขากลับมาเป็นแชมป์กัลโช่ เซเรีย อาที่มีอันโตนิโอ คอนเต้คุมทีม และเปลี่ยนมาเป็นมัสซิมิเลียโน่ อัลเลกรี ซึ่งยูเวนตุสก็ยังคงครองความยิ่งใหญ่ได้อยู่
โดยคอนเต้พายูเวนตุสเป็นแชมป์ 3 สมัย ส่วนอัลเลกรีนั้นเป็นแชมป์ถึง 5 สมัยเลยทีเดียว รวมถึงการพาทีมเข้าชิงยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกได้ถึง 2 ครั้งด้วย แต่ก็ดันไปแพ้ให้กับ 2 ยอดทีมของสเปนอย่างบาร์เซโลน่า และเรอัล มาดริดเสียก่อน
แต่ถึงอย่างไรแล้วพวกเขาก็ยังรักษามาตรฐานในลีกไว้ได้อย่างดี และไม่มีใครโค่นพวกเขาได้มาเกือบ 1 ทศวรรษแล้ว ซึ่งในฤดูกาลนี้ยูเวนตุสมีการเปลี่ยนแปลงตัวกุนซืออีกครั้ง หลังจากที่หมดสัญญากับมัสซิมิเลียโน่ อัลเลกรีหลังจบฤดูกาลที่แล้ว ทำให้สโมสรไปดึงเมาริซิโอ ซาร์รี่ ผู้ซึ่งพึ่งคุมทีมเชลซีเพียง 1 ฤดูกาลเท่านั้นเข้ามาคุมทีมยูเวนตุสแทน
เมาริซิโอ ซาร์รี่นั้นก่อนหน้านี้เคยคุมทีมนาโปลีมาแย่งแชมป์กับ ยูเวนตุส มาก่อนถึง 3 ฤดูกาล ซึ่งเขามีสไตล์การสร้างทีมที่เล่นเกมรุกดุดันมาโดยตลอด แต่ในฤดูกาลนี้เขายังไม่สามารถทำให้ทีม “ม้าลาย” มีเกมรุกที่ดุดันได้เลยในช่วงที่ผ่านมา ทั้งๆ ที่ขุมกำลังของพวกเขาแทบไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงจากฤดูกาลก่อนเลย แถมยังแข็งแกร่งกว่าเดิมด้วยซ้ำ
เพราะในช่วงก่อนเปิดฤดูกาลทีมไปคว้าตัวมัตไธจ์ เดอ ลิกต์ ปราการหลังดาวรุ่งทีมชาติเนเธอร์แลนด์จากอาแจ๊กซ์ อัมสเตอร์ดัมมาร่วมทีม อีกทั้งยังได้อารอน แรมซี่ย์ กองกลางทีมชาติเวลส์ที่หมดสัญญากับอาร์เซน่อลมาร่วมทีมอีกราย รวมถึงยังมีกอนซาโล่ อิกวาอินที่กลับมาจากการยืมตัวกับเชลซีเมื่อฤดูกาลที่แล้ว
ทำให้เมาริซิโอ ซาร์รี่ยังคงมีอาวุธครบมืออยู่ดี แม้ว่าพวกเขาจะตัดสินใจขายนักเตะบางคนออกจาทีมไปก็ตาม ทั้งมาริโอ มานด์ซูคิช กองหน้าทีมชาติโครเอเชีย และมอยส์ คีน กองหน้าดาวรุ่งที่ปล่อยไปให้กับเอฟเวอร์ตัน
แต่นักเตะแกนหลักของทีมยังคงอยู่กันพร้อมหน้า ทั้งคริสเตียโน่ โรนัลโด้ เปาโล ดิบาล่า มิราเล็ม ปานิช แต่ผลงานของทีมดังแห่งเมืองตูรินทีมนี้ยังไม่เข้าตาเลยตั้งแต่ช่วงต้นฤดูกาล ถึงแม้ว่าตอนนี้พวกเขาจะยังนำเป็นจ่าฝูงของศึกกัลโช่ เซเรีย อาอยู่ก็ตาม แต่ก็นำลาซิโอเพียงแค่คะแนนเดียวเท่านั้น ในขณะที่ยังเหลืออีกเป็น 10 นัดเลยทีเดียวในฤดูกาลนี้ ทำให้สถานการณ์ในการแย่งแชมป์ยังไม่มีความแน่นอนแต่อย่างใด
แต่สถานการณ์ของผู้เล่นในทีมยูเวนตุสหลังจบฤดูกาลนี้อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงไปพอสมควรเลยทีเดียว เมื่อดูเหมือนว่าพวกเขาเตรียมจะรื้อนักเตะตัวหลักก่อนหน้านี้บางคนออกจากทีมไป โดยเฉพาะในรายของมิราเล็ม ปานิช กองกลางทีมชาติบอสเนียที่มีข่าวว่าพวกเขาจะขายออกจากทีมเพื่อเปิดทางให้กับปอล ป็อกบา กองกลางทีมชาติฝรั่งเศสที่พวกเขาเล็งที่จะดึงตัวจากแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดกลับมาค้าแข้งในอิตาลีอีกครั้งในฤดูกาลหน้า
และด้วยระบบกองกลาง 3 คนของทีมนั้นในยุคของซาร์รี่เขาจะเลือกใช้โรดริโก้ เบนตานคูร์ กองกลางทีมชาติอุรุกวัยลงสนามเป็นตัวหลัก และอีกคนดูเหมือนว่าจะเป็นอาเดรียน ราบิโอต์ กองกลางฝรั่งเศสที่ซาร์รี่ดูจะถูกใจทีเดียว ทำให้ตอนนี้ปานิชน่าจะกลายเป็นส่วนเกินของยูเวนตุสไปแล้วหลังจากนี้
ซึ่งการจะไปคว้าตัวปอล ป็อกบากลับมานั้นทำให้ยูเวนตุสต้องใช้เงินหลัก 100 ล้านยูโรเป็นอย่างน้อยแน่นอน ทำให้การขายมิราเล็ม ปานิชคนเดียวนั้นอาจไม่พอ ทำให้อารอน แรมซี่ย์ที่ถึงแม้ว่าจะย้ายทีมมาแค่ปีเดียวเท่านั้น แต่ก็มีข่าวว่าอาจจะเป็นอีกคนหนึ่งที่จะถูกขายออกจากทีมในช่วงปิดฤดูกาล เพื่อนำเงินไปสมทบทุนในการดึงป็อกบากลับมา ซึ่งดูแล้วยูเวนตุสน่าจะต้องวุ่นทีเดียวหลังจบฤดูกาลนี้ เพราพวกเขาต้องเผชิญกับวิกฤตโควิด 19 อย่างหนักด้วยในตอนนี้
